คุยกับ “ยูโร” จิราวัฒน์ พรพุฒิเมธี : “ฟุตบอลความสุขที่มองไม่เห็น”

 

ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทุกวงการถูกแช่แข็งโดยถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้แต่การแข่งขันกีฬาที่ช่วยสร้างความบันเทิงให้กับผู้คนทุกเพศวัย วันนี้ผมขอส่งต่อพลังบวกเพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน ด้วยบทสนทนาที่ผมเองก็คาดไม่ถึงมาก่อนว่าจะมีใครที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้ผมได้มากขนาดนี้
เมื่อสัปดาห์ก่อนผมมีโอกาสพูดคุยกับ “น้องยูโร” จิราวัฒน์ พรพุฒิเมธี เด็กหนุ่มวัย 20 ปีผู้พิการทางสายตาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งน้องบอกผมว่าติดตามงานของผมมานานกว่า 10 ปี และมีอีกหลายๆ คนเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต แต่สำหรับตัวผมเองกลับมองว่า “น้องยูโร” นี่แหละที่มีความสามารถรอบด้าน และสามารถเป็นไอดอลให้คนธรรมดาทั่วไปได้ยิ่งกว่าใครอีกหลายคนด้วยซ้ำไป ลองติดตามและมาทำความรู้จักกับเด็กหนุ่มคนนี้กัน

 

น้องยูโร : สวัสดีครับ สามารถติดตามรายการทันเกมส์ได้ที่ไหนครับ (น้องทักมาหาผมทางอินบ็อกซ์ของเพจวันแมนโชว์)

 

แมน : ฟังย้อนหลังได้ทางเพจครับ หรือถ้าฟังสดได้ทางคลื่นวิทยุ FM106 11.30-12.30 น. จันทร์-ศุกร์ ครับ เดี๋ยวนะ น้องเป็นคนตาบอดใช่มั้ยครับ พี่เห็นรูปในโปรไฟล์ แล้วอ่านข้อความ หรือพิมพ์คุยโต้ตอบ ใช้วิธียังไงครับ ขอโทษที่ถามนะ พี่รู้สึกสนใจจริงๆ

 

น้องยูโร : ใช่ครับผม ผมติดตามพี่ตั้งแต่พี่จัดที่ช่องทีวี น่าจะเป็นช่วงของการกีฬาแห่งประเทศไทยครับ

 

แมน : โห ตั้งแต่ T-Sport เลยหรอครับ น่าจะไม่ต่ำกว่า 7-8 ปีมาแล้วนะนั่น พี่โทรหาน้องได้มั้ย รู้สึกอยากคุยขึ้นมาเลย ว่าการติดตามฟุตบอลของน้องทำยังไง ในมุมที่พี่หรืออีกหลายๆ คนไม่เคยรู้

 

น้องยูโร : ได้ครับพี่ เบอร์xxxxxxxxxx

 

(หลังจากนี้เป็นการโทรคุย)

 

แมน : สวัสดีครับยูโร ขอถามก่อนดีกว่าว่า เวลาพิมพ์แชทคุยกับพี่ทำยังไงอะ เพราะเรามองไม่เห็นถูกมั้ย

 

น้องยูโร : เป็นโปรแกรมช่วยอ่านครับ จะเป็นเสียง Siri เวลาผมเอานิ้วลากไปตรงไหน โปรแกรมก็จะช่วยอ่านให้ครับ

 

แมน : อ๋อ โอเคนึกออกๆ แล้วเวลาพิมพ์ล่ะ อันนี้ใช้สมาร์ทโฟน ที่หน้าจอเป็นทัชสกรีนถูกมั้ย หรือมีปุ่มอักษรเบลอะไรรึเปล่า เวลาพิมพ์หน้าจอระบบสัมผัส พิมพ์ยังไงเนี่ย

 

น้องยูโร : เป็นหน้าจอทัชสกรีนธรรมดานี่แหละครับ ผมชินกับการพิมพ์แบบสัมผัสแล้วครับ อย่างเวลาผมกดตัวแรกสมมติว่า ก ไก่ โทรศัพท์ก็จะมีเสียงบอกว่า ก ไก่ ที่เหลือผมก็จะใช้ความเคยชิน พิมพ์ต่อยาวๆ ได้เลย

 

แมน : โห คือต้องชำนาญมากจริงๆ อะ เพราะยูโร พิมพ์มานี่ พี่ดูแล้วสะกดไม่มีผิดซักคำแล้วเว้นวรรคเป็นระเบียบมากๆ

น้องยูโร : ครับพี่แมน ผมเล่นโทรศัพท์อยู่ทุกๆ วัน พอพิมพ์บ่อยๆ มันก็เริ่มคล่องไปเองครับ

 

 

แมน : เห็นเราบอกว่าเคยดูพี่จัดรายการทีวี ตั้งแต่สมัย T-Sport เลยถูกมั้ย มันนานมากแล้วนะ (เกือบ 10 ปี) พอจะจำได้มั้ยว่าตอนนั้นมีใครเป็นพิธีกรบ้าง

 

น้องยูโร : ตอนนั้นพี่จัดรายการ Sport Gossip กับ Sport Insight ใช่มั้ยครับ ที่มีเฮียนอส (อภิสิทธิ์ อภิสุขสิริ) ด้วย จริงๆ แล้วผมติดตามพี่แมนมาหลายที่เลยครับ พี่เคยอ่านข่าวช่วงบ่ายๆ ที่ช่อง TNN ด้วยใช่มั้ยครับ ที่มีเฮียนอส กับ พี่อ้วน เพลย์เมคเกอร์ (พรศักดิ์ เขมทัศน์) สลับมาอ่านคู่กับพี่ แล้วจะมีพี่ผู้หญิงอีกสองคน ผมจำได้คนนึงชื่อพี่ออม

 

 

แมน : โห สุดยอดอะ ผู้หญิงก็จะมี ออม (ภัคสุภัสส์ เพชรวิวรรธน์) กับ พลอย (สุภจรรยา สิริพูน) อันนี้พี่ปลื้มมากเลยนะที่เราจำได้ขนาดนี้ เออแล้วเราเชียร์ทีมอะไรบ้างนะครับ

 

น้องยูโร : ทีมต่างประเทศผมชอบ ลิเวอร์พูล ครับ ถ้าเป็นสโมสรไทยผมเชียร์เมืองทอง ยูไนเต็ด

 

แมน : ตอนนี้น้องอายุเท่าไหร่นะครับ เรียนที่ไหนชั้นไหนแล้ว และอยู่จังหวัดอะไร

 

น้องยูโร : ตอนนี้ผม 20 ครับ เรียนที่ รร.พระมหาไถ่ ชั้น ม.6 เป็นโรงเรียนสำหรับสอนคนตาบอดโดยเฉพาะ ส่วนตัวผมเป็นคนจ.ปราจีนบุรี ครับ

 

แมน : พี่ขออนุญาตถามเพิ่มเติมนะ ถ้าคำถามไหนทำให้เราไม่สบายใจบอกพี่ได้เลย เราตาบอดตั้งแต่กำเนิด หรือว่ามาสูญเสียการมองเห็นทีหลังนะครับ แล้วทำไมถึงชอบกีฬาฟุตบอล

 

น้องยูโร : ผมตาบอดตั้งแต่เกิดแล้วครับ คือเริ่มมาจากคุณพ่อผมชอบฟุตบอล ชื่อยูโรก็มาจากปี 2000 ที่ผมเกิด เป็นช่วงยูโร 2000 ที่ฝรั่งเศส คุณพ่อผมก็เลยตั้งชื่อว่ายูโร ส่วนตัวผมเองเริ่มชอบฟุตบอลเมื่อปี 2008 เพราะได้ดู ลิเวอร์พูล ที่เจอกับ เชลซี รอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีนั้น ก่อนที่ เชลซี จะเข้าชิงไปชนะ แมนฯ ยูฯ ในรอบชิง ตอนนั้นผมก็เริ่มเชียร์ลิเวอร์พูลมาตลอดครับ ชอบ สตีเว่น เจอร์ราร์ด แล้วตัวผมเองก็เล่นกีฬาฟุตบอลอยู่แล้วด้วย

 

 

แมน : ห๊ะ! เล่นยังไงอะ มองไม่เห็นเนี่ยนะ เป็นแนวฟุตบอลคนตาบอด ที่พี่เคยเห็นมีแข่งระดับทีมชาติแนวๆ นั้นมั้ย

 

น้องยูโร : ใช่ครับพี่ ผมเองก็เคยติดทีมชาตินะครับ ตอนนั้นอายุประมาณ 13 ปีเอง

 

แมน : โห  แล้วรู้ได้ไงว่าลูกบอลอยู่ตรงไหน จะส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีม หรือยิงประตูยังไงเนี่ย

 

น้องยูโร : ใช้การฟังเสียงเอาครับ จะมีคนคอยส่งเสียงบอก เวลายิงประตู ตรงหลังโกลจะมีคนที่เป็นโกล ไกด์ คอยบอกทิศทางให้ครับ

 

แมน : พี่ต้องไปหาดูแล้วล่ะ อย่างนี้เราสามารถเดาะบอลหรือเลี้ยงบอลได้คล่องแคล่วมั้ย พี่กำลังนึกภาพตัวเองเอาผ้าปิดตา คงเป็นไปไม่ได้เลยที่พี่จะเตะลูกบอลให้โดนได้

 

น้องยูโร : เดาะบอลนี่ทำไม่ได้ครับ แต่เลี้ยงบอลได้ครับ เราอาศัยความคุ้นเคยเวลาบอลอยู่กับเท้าก็จะรู้ว่าลูกอยู่ตรงไหน แต่ถ้าเดาะบอลสลับเท้าซ้ายขวา ปกติแล้วคนตาบอดจะทำไม่ได้ครับ

 

แมน : อืมพอจะนึกภาพตามได้นะ แต่ก็น่าทึ่งจริงๆ แหละ แล้วตอนนี้ยังเล่นฟุตบอลอยู่มั้ย

 

น้องยูโร : ยังเล่นอยู่นะครับ ก็ยังมีไปแข่งกีฬานักเรียน แล้วก็เล่นให้จังหวัดอยู่ครับ เวลามีแข่งขันกีฬาคนพิการชิงแชมป์ประเทศไทย

 

แมน : มาถามถึงเรื่องการดูบอลบ้างดีกว่า มีวิธีการยังไง ทั้งที่มองไม่เห็นการแข่งขัน แล้วจะรู้ได้ไงว่าในหน้าจอนักเตะเขากำลังทำอะไรอยู่ แล้วสมมติคนพากย์บอกว่านักบอลทำท่าซีดานเทิร์น หรือท่าฟลิป แฟล็ป ของ โรนัลดินโญ่ เราจะรู้ได้ไงว่าท่าต่างๆ มันเป็นยังไง

 

น้องยูโร : ผมฟังเสียงผู้บรรยายและจินตนาการภาพตามครับ อย่างซีดานเทิร์น ก็น่าจะเป็นการเลี้ยงๆ บอลอยู่แล้วหมุนตัวพาบอลหลบคู่แข่งใช่มั้ยครับ ส่วนของโรนัลดินโญ่ เท่าที่ฟังแล้วคิดตามก็น่าจะเป็นการเลี้ยงแบบล็อกบอลหลบ ผมเองก็เคยลองเอาไปหัดทำตอนเล่นฟุตบอลเหมือนกันครับ

 

แมน : โห เรื่องนี้คนที่เป็นผู้บรรยายถือว่าสำคัญมากเลยนะ น่าจะฟีลเดียวกับการฟังพากย์บอลทางวิทยุเลย เพราะต้องบรรยายโดยที่คนดูไม่เห็นภาพ แบบนี้เรามีนักพากย์ที่ชื่นชอบเป็นพิเศษบ้างมั้ย

 

 

น้องยูโร : ถ้าเป็นทีวีก็ชอบ พี่แจ็คกี้ (อดิศร พึ่งยา), อาบิ๊กจ๊ะ (สาธิต กรีกุล), พี่ฟลุ๊ค (ธีรยุทธ บัญหนองสา) ครับ ส่วนถ้าเป็นวิทยุ ผมฟังคลื่น 99 ก็จะชอบพี่ชิต (ชิตพล ทรัพย์ขำ) แล้วก็พี่โทน (พีรณัฐ จำปาเงิน) เวลาฟังวิทยุผมก็ชอบที่พี่เขามีมุกต่างๆ ในการบรรยายทำให้สนุกยิ่งขึ้น

 

แมน : คืออย่างพวกพี่ที่เป็นนักพากย์เนี่ย จะถูกตั้งกระทู้ด่ากันว่าพากย์ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วผู้บรรยายแบบไหนที่เรารู้สึกว่าไม่โอเคบ้างมั้ย

 

น้องยูโร : ก็คงจะเป็นคนที่พากย์แล้วน้ำเสียงชวนง่วงนอน พากย์แล้วชอบเงียบไปนานๆ อยู่ๆ พอมีจังหวะหวาดเสียวก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมาครับ คือผมนึกภาพไม่ออกว่าในสนามกำลังเกิดอะไรขึ้น อยู่ๆ ก็ตื่นเต้นขึ้นมาเลย แต่ก็เข้าใจนะครับว่าเวลาถ่ายทอดทางทีวี ภาพมันช่วยเล่าเหตุการณ์ จะให้บรรยายละเอียดทุกจังหวะเหมือนวิทยุคงไม่ได้

 

แมน : อันนี้ส่วนตัวเลย แล้วพี่อะ เคยฟังพี่พากย์บอลมั้ย แล้วพอไหวมั้ย 555 ไม่ต้องเกรงใจนะ

 

น้องยูโร : พี่แมนก็พากย์โอเคเลยนะครับ ผมเคยฟังที่พี่พากย์บอลน่าจะช่อง CTH นานมากแล้ว

 

แมน : อันนี้บางคนยังไม่เคยรู้เลยนะ เรารู้ได้ไงเนี่ย พี่เคยพากย์ CTH ตั้งแต่สมัยมี GoalTV ตึกเก่าตรงเกษตรนวมินทร์เลย ตอนนั้นยังไม่ได้ซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เลย แล้วจำได้ไงว่าเป็นพี่เนี่ย

 

น้องยูโร : ผมจำเสียงพี่ได้ครับ ผมชอบดูบอลดูข่าวกีฬาอยู่แล้ว พอเปิดเจอ ถ้าจำเสียงได้ก็จะรู้ว่าเป็นใคร

 

แมน : เคยไปดูบอลในสนามจริงมั้ยครับ

 

น้องยูโร : ไม่ค่อยนะครับ เพราะเข้าไปผมก็มองไม่เห็นอะไร แต่จะมีอยู่ครั้งนึง ไปดูบอลไทยลีก คู่ นครราชสีมา พบกับ พัทยา ตอนนั้นผมไปแข่งกีฬานักเรียนที่โคราช อาจารย์ก็เลยพาเข้าไป เพราะเขาเปิดให้คนพิการเข้าชมด้วย

 

 

แมน : เข้าไปซึมซับบรรยากาศ อะไรประมาณนี้เนอะ อ้าวแล้วจะดูยังไงล่ะ ในเมื่อมองไม่เห็น

 

น้องยูโร : อาจารย์ที่นั่งข้างๆ เขาช่วยบรรยายให้ครับ เขาก็จะคอยบอกว่าในสนามตอนนี้เกิดอะไรขึ้น บอลอยู่ที่ใคร

 

แมน : แล้วระหว่างการไปดูบอลในสนามจริง กับทางหน้าจอทีวี ชอบแบบไหนมากกว่ากัน

 

น้องยูโร : ผมชอบดูทางทีวีมากกว่าครับ เพราะมีผู้บรรยายทำให้ผมนึกภาพตามได้ แต่ในสนามก็สนุกไปอีกแบบ เพราะเวลาคนในสนามเขาเฮกันตอนทีมที่เชียร์ยิงประตู ผมก็รู้สึกสนุกกับบรรยากาศรอบข้างไปด้วย

 

แมน : ฟุตบอลทีมชาติไทยล่ะ ติดตามเชียร์มั้ย

 

น้องยูโร : ดูตลอดเลยครับ มีนัดนึงที่ผมประทับใจมากคือนัดชิง ซูซูกิ คัพ เมื่อปี 2014 ตอนนั้นช่อง 7 ถ่ายทอดสด ที่เราไปเยือนมาเลเซีย แล้ว ชัปปุยส์ กับ พี่เจ ชนาธิป ยิงไล่มา 2-3 แล้วเราเป็นแชมป์ ตอนนั้นผมกระโดดเฮลั่นบ้านเลยครับ

 

แมน : ตอนนั้นก็จะเป็นพี่แอ๊ดดี้ วีรศักดิ์ นิลกลัด กับพี่แจ็คกี้ อดิศร พึ่งยา พากย์เนอะ ฟีลได้มากอะเกมนั้น แล้วมีนักบอลไทยที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษมั้ย

 

น้องยูโร : ผมชอบพี่ เจ ชนาธิป มากครับ เป็นไอดอลของผมเลย ผมเคยไปอ่านประวัติชีวิตของพี่เขา ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจ เพราะเขาต่อสู้กับหลายอย่างมาเยอะมากๆ กว่าจะมาได้ถึงขนาดนี้ แล้วผมก็ชอบตอนที่อ่านเรื่องที่คุณพ่อของพี่เจ สอนพี่เจ หลายๆ เรื่องด้วยครับ

 

แมน : ถ้ามีโอกาสได้เจอตัวจริงกับพี่เจ จะรู้สึกยังไง แล้วจะทำอะไรบ้าง

 

น้องยูโร : โห ผมคงดีใจมากครับ ก็คงคุยกับพี่เขา และขอถ่ายรูป แค่นี้ก็พอแล้วครับ

 

แมน : เดี๋ยวพี่จะลองเล่าให้พี่เจ ฟังดูแล้วกัน แต่ช่วงนี้ก็อาจเจอยากหน่อย เพราะติดเรื่อง Covid ด้วย

 

น้องยูโร : ขอบคุณพี่แมนมากๆ ครับ

 

(ผมเล่าเรื่องของยูโรให้ เจ ชนาธิป ฟังแล้ว และ เจ ส่งคลิปนี้มาให้ ยูโร เป็นการส่วนตัว)

 

https://www.facebook.com/141077496628208/posts/687397328662886/?vh=e&d=n

 

แมน : ขอถามเรื่องส่วนตัวหน่อยนะครับ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เคยมีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยหรือท้อแท้บ้างมั้ยกับการดำเนินชีวิตของตัวเอง มีใครมาบูลลี่ หรือดูถูกเราหรือเปล่า ในครอบครัวของยูโร มีญาติหรือพี่น้องที่เป็นอย่างเรามั้ย เพื่อนฝูงคนรอบตัวปฏิบัติตัวยังไงกับเราบ้าง

 

น้องยูโร : ผมเป็นแบบนี้ตั้งแต่เกิดก็อาจจะไม่รู้สึกขนาดนั้นครับ แต่ถ้าเป็นคนที่เคยปกติแล้วอยู่ๆ มาพิการทีหลัง อาจจะทำใจยาก บางคนถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าไปเลยก็มี ในครอบครัวผมมีผมคนเดียวครับที่เป็นแบบนี้ แต่ผมอาจจะโชคดีครับที่คนรอบข้างทำเหมือนผมเป็นคนธรรมดาคนนึง ตอนเรียนหนังสือส่วนใหญ่ผมเรียนกับคนตาบอดด้วยกันอยู่แล้ว แต่ช่วงที่ต้องไปเรียนกับคนปกติ แรกๆ ก็อาจมีบ้างครับ ที่ผมรู้สึกว่ามีบางคนหัวเราะผม ที่ทำอะไรเงอะๆ งะๆ แต่พอเขาเห็นว่าเราไม่ทำตัวเป็นภาระใครหรือปลีกตัวแยกจากสังคม คนอื่นๆ ก็ดูจะเปิดใจยอมรับที่ผมเป็นผมมากขึ้นครับ ผมโชคดีด้วยที่คนรอบข้างมีแต่คนดีๆ แต่ผมก็ไม่รู้นะครับว่าถ้าตอนที่เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว จะเจออะไรที่เปลี่ยนไปหรือเปล่า

 

แมน : พี่มีเพื่อนฝูงที่เป็นนักกีฬาคนพิการหลายคนนะ พี่เคยเขียนคอลัมน์ถึงเพื่อนพี่ที่เป็นนักปิงปองคนพิการด้วย ชื่อ “เนะ” เขาเกิดมาไม่มีแขนทั้งสองข้าง และมีขาข้างเดียว เดี๋ยวพี่ส่งให้เราอ่านดีกว่า อาจจะเป็นแรงบันดาลใจดีๆ ได้บ้าง

 

น้องยูโร : ผมอ่านจบแล้วครับ ให้พลังบวกได้ดีมากครับ

 

แมน : แล้วเรามีอะไรที่เป็นตัวช่วยในการสร้างความสุขในแต่ละวันให้ตัวเองบ้างครับ

 

น้องยูโร : นอกจากฟุตบอล ก็มีเสียงเพลงกับดนตรีครับ เพราะผมเองก็เป็นคนที่เล่นดนตรีเหมือนกันครับ แล้วก็อ่านบทความที่เป็นแนวให้กำลังใจเหมือนที่พี่ส่งมาให้ผมนี่แหละครับ

 

แมน : เล่นเครื่องดนตรีอะไรหรอครับ

 

น้องยูโร : เปียโนครับ (ผมไปไล่อ่านเฟซบุ๊คของน้องยูโรย้อนหลัง จนรู้ว่าน้องเป็นนักเปียโนวงโรงเรียนและร้องเพลงได้เพราะมากๆ แถมยังเคยแข่งยูโดเป็นถึงรองแชมป์ประเทศไทยมาแล้วด้วย)

 

 

 

แมน : จริงๆ น้องเป็นคนที่เก่งรอบด้านมากเลยนะ เก่งกว่าคนทั่วไปหลายๆ คนด้วยซ้ำไป แล้วมีความฝันมั้ยว่าโตขึ้นหรือเรียนจบแล้วอยากทำอะไร อยากประสบความสำเร็จในเรื่องไหน

 

น้องยูโร : ผมอยากเป็นครูครับ ตั้งใจไว้แล้วว่าจะเรียนคณะศึกษาศาสตร์ แล้วพอจบก็จะเป็นครูมาสอนเด็กๆ โรงเรียนคนตาบอดนี่แหละครับ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะสอนอะไร ถ้าที่อยากทำก็คงเป็นสอนภาษาอังกฤษหรือภาษาจีนครับ เพราะผมชอบเรื่องภาษาด้วย

 

แมน : โห ภาษาจีน เลยหรอ ตอนนี้เราสื่อสารได้ระดับไหนแล้วเนี่ย คุยกับคนจีนได้เลยมั้ย

 

น้องยูโร : ก็พอสื่อสารได้ครับ ยังไม่ได้เก่งอะไรมาก

 

แมน : สื่อสารพูดคุยได้ก็เก่งแล้ว ยิ่งถ้ามีความฝันอยากเป็นครูด้านนี้ แสดงว่าเราต้องตั้งใจจริงมากๆ แล้วล่ะ ยังไงพี่ก็ขออวยพรให้สิ่งที่เราตั้งใจทำ ประสบความสำเร็จทุกๆ อย่างนะ

 

น้องยูโร : ขอบคุณมากครับพี่แมน

 

แมน : เออพี่มีเสื้อพิธีกรที่พี่ใส่ตอนทำ TSPORT รายการ Sport Gossip เก็บไว้ ถ้ายูโรอยากได้พี่ส่งให้เอามั้ย

 

 

น้องยูโร : อยากได้ครับ พี่จะให้ผมจริงๆ หรอครับ

 

แมน : ถ้าเป็นเราพี่ให้ได้ ถือเป็นการส่งต่อกำลังใจให้ก็แล้วกัน มันอาจจะเก่าแล้ว สีซีดหน่อย ถ้าได้แล้วใส่ให้พี่ดูด้วยนะ

 

น้องยูโร : โห ขอบคุณมากๆ ครับพี่ เดี๋ยวผมจะใส่แล้วแท็กไปให้พี่นะครับ

 

แมน : ได้เลย แล้วถ้าอยากคุยอะไรกับพี่ก็ทักมาได้ตลอดเลยนะ ยินดีมากๆ พี่คุยกับเราแล้วรู้สึกได้พลังบวกเยอะมากเลย

 

น้องยูโร : ขอบคุณพี่เช่นกันนะครับ ผมจะติดตามพี่ตลอดไปนะครับ

 

 

ขอขอบคุณ  https://www.thsport.com/column-3213.html

และ  คุณแมน โกสินทร์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *