ศิลปะมากคุณค่า ส่งต่อแรงบันดาลใจ

cccc

 

ศิลปะมากคุณค่า

ส่งต่อแรงบันดาลใจ

คอลัมน์ สดจากเยาวชน

 

ศิลปะมากคุณค่าส่งต่อแรงบันดาลใจ – ศิลปะการปั้นสำหรับคนทั่วไปนับว่ายากแล้ว การปั้นเพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะสำหรับผู้พิการทางสายตายิ่งเป็นสิ่งที่ยากกว่า เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถมองเห็นชิ้นงาน รายละเอียดต่างๆ รวมถึงรูปร่างของงานที่ออกมาว่าเป็นอย่างไร จึงทำให้การถ่ายทอดภาพในจินตนาการออกมาเป็นชิ้นงานไม่ใช่เรื่องง่าย

 

แต่ภายใต้เงื่อนไขข้อจำกัดของความยากเหล่านั้น ธนาคารยูโอบี (ไทย) มองว่าศิลปะการปั้นสามารถสร้างสรรค์ให้ออกมาในมุมมองต่างๆ ได้ แม้จะมีความบกพร่องทางสายตา ก็สามารถเรียนรู้และปั้นชิ้นงานได้เหมือนคนทั่วไปผ่านการสัมผัส จึงเพิ่มทักษะการปั้นให้น้องๆ ผู้พิการทางสายตาผ่านโครงการ UOB Please Touch หรือ “โครงการกรุณาสัมผัส โดยธนาคารยูโอบี” ปีที่ 5

 

ศิลปะมากคุณค่าส่งต่อแรงบันดาลใจ

 

สัญชัย อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ การเงินและสนับสนุนธุรกิจธนาคาร ธนาคารยูโอบี (ไทย) กล่าวว่า “ศิลปะสัมผัสได้ถือเป็นการเติมเต็มจินตนาการผ่านเทคนิคทางศิลปะที่ใช้การสัมผัสพื้นผิวหรือรูปทรงที่มีความแตกต่างด้วยมือให้ผู้พิการทางสายตา ซึ่งจะได้เรียนรู้วิธีการสร้างสรรค์งานศิลปะจนสามารถพัฒนาออกมาเป็นชิ้นงานศิลปะหรืองานฝีมือได้ โดยมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะเพื่อผู้พิการทางสายตาพร้อมด้วยอาสาสมัครพนักงานธนาคารยูโอบีเข้าร่วมเป็นพี่เลี้ยงให้กลุ่มผู้พิการทางสายตา

 

ศิลปะมากคุณค่าส่งต่อแรงบันดาลใจ

 

รศ.ทักษิณา พิพิธกุล อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านศิลปะเพื่อผู้พิการทางสายตา ผู้ออกแบบหลักสูตรและวิทยากรหลัก ให้ข้อมูลว่าออกแบบกิจกรรมผ่านศิลปะแขนงต่างๆ ที่ผู้พิการทางสายตาสามารถนำไปต่อยอดได้ ทั้งด้านทักษะศิลปะและด้านอาชีพ ในครั้งนี้มีทั้งหมด 5 ทักษะ ได้แก่ ศิลปะการทอผ้าด้วยกี่มือ ศิลปะการถักเชือกเมคราเม่ทำกระเป๋า

 

ศิลปะการปักไหมพรม ศิลปะการปั้นดินทำ เซรามิก และศิลปะการปั้นสบู่จากธรรมชาติ โดยการปั้นดินไม่ได้ปั้นเป็นวัตถุใช้สอย แต่เราให้น้องๆ ปั้นใบหน้าของพี่ๆ จิตอาสา เพื่อให้เขามีกระบวนการทำงานเชื่อมโยงกัน มีการสัมผัสว่า ตา จมูก ปาก หู อยู่ตำแหน่งไหน รูปลักษณ์เป็นอย่างไร แล้วน้องๆ ก็จะปั้นตามจินตนาการที่ได้สัมผัส โดยมีพี่ๆ จิตอาสาคอยช่วยเหลือและแนะนำ

 

ศิลปะมากคุณค่าส่งต่อแรงบันดาลใจ

 

น้องนุช ผู้พิการทางสายตา จากโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ เล่าว่า “สนุกทุกครั้งที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม รู้สึกว่าตนเองพัฒนาฝีมือและทักษะศิลปะในด้านต่างๆ มีความกล้า และสามารถคิดสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระ”

 

ด้าน น้องติน ฉัตริน สินธุสาร เดินทางมาจากอำเภอปากเกร็ด จ.นนทบุรี เล่าว่า “การปั้นครั้งนี้สนุกมาก พี่ๆ จิตอาสาช่วยเหลือเป็นอย่างดี คอยบอกว่าตรงไหนหู ตรงไหนตา ปาก จมูก แม้ผมจะมองไม่เห็นผลงานของตัวเอง แต่ผมเชื่อว่าจะเป็นผลงานการปั้นที่สวยงามของผมครับ”

 

ส่วนน้องมินท์ เมธาวี ขุนพลเอี่ยม เดินทางมาจากบางปะกอก กรุงเทพฯ เล่าว่า “การปั้นในวันนี้สนุกและเป็นกันเองมาก พี่ๆ วิทยากรให้คำแนะนำในการปั้น หลักการต่างๆ ทำให้สามารถปั้นเป็นชิ้นงานได้อย่างง่ายดาย ในแง่ของศิลปะแล้ว ออกมาสวยหรือไม่ขึ้นอยู่กับมุมมองของคนดู”

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก  https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_3846357

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *