รองผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ลงพื้นที่ติดตาม โครงการ “ครัวเรือนพ้นจน คนอุบลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

logomain

 

รองผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ลงพื้นที่ติดตาม โครงการ “ครัวเรือนพ้นจน คนอุบลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

 

นายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยนายธนาคม กองเพียร นายอำเภอวารินชำราบ ผู้นำท้องถิ่น ลงพื้นที่ติดตาม โครงการ “ครัวเรือนพ้นจน คนอุบลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เพื่อมอบถุงยังชีพให้ครัวเรือนนางฉลวย เกตุท่อน อายุ 75 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 10 บ้านรวมพล ตำบลคำขวาง อำเภอวารินชำราบ โดยมีรายได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและ เบี้ยคนพิการ อาศัยอยู่กับลูกชาย อายุ 47 ปี ซึ่งป่วยทางจิตเวช พบว่าบ้านที่อยู่อาศัยโครงสร้างหลังคาบ้านชำรุด ซึ่งทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือบริจาคสิ่งของที่จะมาซ่อมแซมบ้านพัก โดยใช้แรงงานในชุมชน

 

จากนั้น ลงพื้นที่มอบสิ่งของถุงยังชีพ ให้แก่นางจันทร์ สมโสภา อายุ 86 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ หมู่ที่ 5 บ้านนาโนนน้อย ตำบลโนนโหนน อำเภอวารินชำราบ อาศัยอยู่บ้านคนเดียวไม่มีญาติ มีรายได้จากเบี้ยผู้สูงอายุ และทางมูลนิธิภาคเอกชน ช่วยค่าอาหาร สำหรับส่วนที่ให้การช่วยเหลือ จะได้สร้างห้องน้ำให้ใหม่ ส่วนด้านสุขภาพ โรงพยาบาลส่งเสริมตำบล และชุมชนช่วยกันดูแล

 

ด้าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า สำหรับการลงพื้นที่ตาม โครงการ “ครัวเรือนพ้นจน คนอุบลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เพื่อสรุปปัญหาให้หน่วยงาน กาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานพัฒนาความมั่นคงและความมั่นคงของจังหวัดอุบลราชธานี ภาคเอกชน และท้องถิ่นช่วยดูแลแก้ไขปัญหา ครัวเรือนตกเกณฑ์จากข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ปี 2562 ด้านรายได้อำเภอวารินชำราบ ซ่อมแซมบ้านเรือน และสร้างห้องน้ำ ทั้งนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของครัวเรือน ให้ดีขึ้น

 

สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี จาการสำรวจมีครัวเรือนตกเกณฑ์จากข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ปี 2562 ด้านรายได้ จำนวน 95 ครัวเรือน 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวารินชำราบ อำเภอตาลสุม อำเภอโพธิ์ไทร อำเภอสำโรง อำเภอดอนมดแดง อำเภอสิรินธร อำเภอนาจะหลวย อำเภอตะการพืชผล และ อำเภอทุ่งศรีอุดม โดยจังหวัดได้ประสานหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เป็นเจ้าภาพหลักในการรับผิดชอบให้ความช่วยเหลือครัวเรือนยากจน โดย 1 หน่วยงานเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบ จำนวน 5 ครัวเรือน (อัตราส่วน 1 : 5) ทั้งนี้ เพื่อให้คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของครัวเรือนยากจนดีขึ้น พ้นจากสถานะครัวเรือนยากจน เกิดการบูรณาการระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก  http://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG200229192829204

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *