“คริสโตเฟอร์ เบญจกุล” อดีตดาราแม้พิการกว่า 20 ปี ไม่ท้อ อโหสิกรรมให้คนก่อ ขอสู้อย่างมีความสุข!

พาคุณผู้ชมไปติดตามชีวิตของ “คริสโตเฟอร์ เบญจกุล” อดีตดาราอนาคตไกลและคงเป็นฮีโร่ในดวงใจของใครหลายๆ คน จากการที่เขาทำความดีช่วยเหลือผู้อื่น แต่กลับต้องกลายเป็นคนพิการมา 20 กว่าปีแล้ว ชีวิตวันนี้ของเขาเป็นอย่างไรบ้าง ลองไปติดตามกัน

หลายคนคงยังไม่ลืมเหตุการณ์อดีตดาราอนาคตไกล “คริสโตเฟอร์ เบญจกุล” ผู้มีน้ำใจลงไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุเมื่อ 20 กว่าปีก่อน แต่โชคร้าย เขากลับประสบอุบัติเหตุซ้ำซ้อน จากคนเมาแล้วขับ ทำให้เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอด แม้สุดท้ายจะรอดมาได้ แต่ก็กลายเป็นคนพิการตั้งแต่วัย 20 ต้นๆ

“ก่อนเกิดอุบัติเหตุ ผมเป็นนักศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยเอแบคปี 3 ตอนนั้นก็เดินแบบ เล่นละคร ทำโฆษณา อะไรพวกนี้”

ย้อนเหตุการณ์…วันเกิดเหตุ!!

“วันนั้นผมไปเที่ยวหัวหินกับเพื่อนกับแฟนเขา เขาบอก เขาเรียนจบ จะแต่งงาน เดี๋ยวผมถ่ายรูปให้ ผมชอบถ่ายภาพอยู่แล้ว ก็ไปกิน ไปเล่น ไปเที่ยวถ่ายรูปกันยันเย็นยันค่ำ 4 ทุ่ม เพื่อนบอก ค้างด้วยกันคริส จะดีเหรอ ชาย 2 หญิง 1 นะ กลับกันเถอะ ขากลับบน ถ.เพชรเกษม ก็เจอมอเตอร์ไซค์คว่ำอยู่”

“ผมก็บอกเพื่อน ช้าๆ ดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นผู้ชายผู้หญิงนอนอยู่กับพื้น ก็ลงไปดู ก็บอกเพื่อนตามรถ รพ.ให้หน่อย เพื่อนบอก แล้วคริสล่ะ เดี๋ยวเราจะนั่งคุยกับคนเจ็บให้เขามีสติ คนขับมอเตอร์ไซค์มาข้างหลัง เขาเมาไง เขาก็มาชนข้างหลัง เรากระเด็นไป 9 เมตร ศีรษะไปกระแทกเสาไฟ โพละปั๊บ น็อคเลย”

อุบัติเหตุจากการทำความดีช่วยเหลือผู้อื่นในครั้งนั้น ไม่เพียงทำให้ “คริส” ในวัย 20 ต้นๆ บาดเจ็บสาหัส และหมดสติไป 10 วัน แต่ยังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานถึง 3 ปีอีกด้วย

ชีวิตไม่เหมือนเดิม ต้อง “หัด” ทุกอย่างใหม่ราวกับ “เด็ก”!!

“เหมือนเด็กเกิดใหม่เลย มาเริ่มหัดพูด หัดกิน หัดเดิน หัดเขียน หัดขยับ ใหม่ทุกอย่าง เหมือนเด็กใหม่เลย (ถาม-ทำใจนานไหมกว่าจะรับได้?) ไม่นาน เพราะเราอยู่ในสภาพนั้น เราก็ต้องยอมรับมัน ยอมรับอะไรง่ายๆ มันก็ง่ายหมดนะ”

“งานต่างๆ (งานแสดง ถ่ายแบบ ฯลฯ) ก็หายไปเลย รายได้ที่เคยได้มาทุกเดือนๆ ก็หายไป เรียนอยู่ก็ต้องดรอปเรียนไป แฟนคบอยู่ เขาก็ คริส บ๊ายบาย”

แม้ต้องสูญเสียอะไรหลายๆ อย่าง แต่ด้วยหัวใจที่ไม่เคยท้อ คริสจึงมุ่งมั่นเรียนจนจบปริญญาตรี (คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) และพยายามหางานทำ เพื่อไม่เป็นภาระของครอบครัว

ปัจจุบัน คริสทำงานอยู่ที่ศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการแห่งเอเชียและแปซิฟิก (APCD) ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ซึ่งศูนย์นี้ฝึกอาชีพหลายๆ อย่างให้คนพิการทุกประเภท เช่น ทำขนมปัง (Yamazaki) ทำช็อกโกแลต (Mark Rin) ฝึกชงกาแฟเป็นบาริสต้า พร้อมกับมีร้าน 60 Plus Bakery & cafe ให้ได้ทำงานจริง

คริสทำงานที่ APCD มาหลายปีแล้ว เขาไม่เพียงคอยให้กำลังใจน้องๆ ผู้พิการที่มาฝึกอาชีพให้สู้ๆ แต่เขายังมีอารมณ์ขัน และเป็นที่รักของทุกคนอีกด้วย

“พี่คริสนิสัยดี รักน้องๆ ทุกคน พูดจาดี สุภาพ ตลกด้วย ใครๆ ก็ชอบ เขาสอนวิธีขายของ สอนให้เข้ากับเพื่อนร่วมงานได้” บอม หนึ่งในพนักงานผู้พิการของร้าน 60 Plus Bakery & cafe

“คุณคริสเป็นคนที่คอยให้กำลังใจกับคนพิการหรือเปราะบางหรือกำลังท้อแท้ พูดให้ลุกขึ้นมาสู้ เขาจะพูดบ่อยๆ คำว่า สู้ๆ นะครับ ก็มีหลายสถาบันหลายองค์กรเชิญเขาไปช่วยพูดเพื่อให้กำลังใจกับคนที่กำลังท้อถอย…” พิรุณ ลายสมิต ผู้อำนวยการบริหาร APCD

ยุคแรกๆ ที่ร้าน 60 Plus Bakery & cafe ยังไม่เป็นที่รู้จัก คริสถึงกับใช้วิธีนำขนมไปเดินขายหน้าร้าน-ริมถนนให้กับผู้สัญจรไปมา ทั้งที่คริสเองก็ต้องมีไม้เท้าไว้ช่วยค้ำยันเวลาเดิน

“(ถาม-เราเคยเป็นดารา ไปเดินขายขนม ไม่รู้สึกอายหรือ?) อายทำไม ไม่ได้ปล้นใครนี่ ผมมาเสิร์ฟสินค้าให้คุณ ถ้าคุณชอบ คุณซื้อ ก็ขอบคุณครับ ถ้าคุณไม่ชอบ ไม่ซื้อ ก็ไม่ว่าอะไร เพียงแต่เอาสินค้าที่คนพิการทำมาเสนอขายคุณ”

นอกจากงานหลักที่ APCD และ 60 Plus Bakery & cafe แล้ว คริสยังใช้เวลาในวันหยุด ช่วยภรรยาขายน้ำส้มคั้นอีกด้วย ซึ่งต้องฟันฝ่าอุปสรรคย้ายที่ขายมาหลายที่แล้ว เคยแม้กระทั่งต้องเปิดท้ายขายน้ำส้มริมถนน และต้องคอยหนีเทศกิจ โชคดีที่น้ำส้มคั้นของคริสมีขายที่ร้าน 60 Plus Bakery & cafe ด้วย

แม้อุบัติเหตุจะผ่านมากว่า 20 ปีแล้ว แต่ยังคงบั่นทอนสุขภาพของคริสจนถึงปัจจุบัน

“สุขภาพตอนนี้ เรียกว่า 95% ดีกว่า ขาซ้ายยกได้ 90 องศา นั่งยองๆ ไม่ได้ เดินไปไหนยังลำบาก เพราะขาซ้ายยังงอไม่ได้เยอะ สมองก็โอเคนะ ความคิด แต่มีลืมง่ายขึ้น การได้ยินลดลง มองเห็นโอเค จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รู้รส หวานพอได้ ขมพอได้ เปรี้ยวไม่รู้เรื่องเลย”

อโหสิกรรม…ให้คนก่อ!!

“(ถาม-ทุกวันนี้ยังโกรธคนที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ชนเราไหม?) จะไปโกรธเขาให้ได้อะไร หน้าเขาผมก็ไม่เคยเห็นเลย ผมก็อโหสิกรรมให้ มีหมอดูบอก ผมเคยไปฆ่าเขาเมื่อชาติที่แล้ว เขามาคืนชาตินี้ ถ้าผมยังเจ็บแค้นเคืองโกรธเขา ชาติหน้าก็คืนกัน เอาเถอะ จบๆ เถอะ ต่างคนต่างอยู่ละกัน”

ทั้งนี้ สำหรับผู้พิการที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถใช้โทรสายด่วน 1479 คนพิการประชารัฐ ที่ให้บริการตลอด 24 ชม. หรือรายละเอียดที่ www.1479hotline.org เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนพิการที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถช่วยบริจาคเงินได้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0 นำใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ โทร. 0-2572-4042 ต่อ 8106

ขอบคุณจาก https://mgronline.com/news1/detail/9650000011437

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *