เตือนภัยคนพิการ! ช่วงนี้ระวัง!แอลกอฮอล์ปลอม อันตรายถึงชีวิต!

รองโฆษก พปชร. เตือน ปชช.ระวังถูกหลอกขายแอลกอฮอล์ปลอม อันตรายถึงชีวิต

 

 

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพปชร. เตือน ประชาชนอาจถูกหลอกขายแอลกอฮอล์ปลอม พิษถึงขั้นเสียชีวิต เตือน มิจฉาชีพซ้ำเติมความเดือดร้อนประชาชน ช่วงวิกฤติเชื้อโควิด-19 ระวังเจอโทษหนักถึงคุก

 

วันที่ 23 มี.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี กล่าวว่า จากความต้องการป้องกันและดูแลตนเองของประชาชน จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก อ้น-ทิพานัน ศิริชนะ Onn-Tipanan Sirichanaน ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกหลอกขายแอลกอฮอล์ปลอม ซึ่งเมื่อนำไปใช้ทำความสะอาดร่างกาย และอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน หรือสำนักงาน รวมทั้งไปทำเจลแอลกอฮอล์ แล้วปรากฏว่า มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน และมีปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ จนต้องไปพบแพทย์หลายราย ปัญหาเกิดจากการกลุ่มมิจฉาชีพนำแอลกอฮอล์ผิดประเภท มาหลอกขายให้กับประชาชน โดยนำส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ชนิดที่เรียกว่า เมทิลแอลกอฮอล์ ที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการกลั่นปิโตรเคมี ซึ่งนิยมใช้ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ เช่น สีทาไม้ น้ำมันเคลือบเงา ยาลอกสี ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย เมื่อประชาชนนำแอลกอฮอล์ดังกล่าวมาฉีดพ่นที่มือ หรือเช็ดล้างอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านแล้วดูดซึมเข้าทางผิวหนัง หรือสูดดมเข้าไป ก็จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ หลอดลมอักเสบ เยื่อบุตาอักเสบ ปวดท้อง เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน และหากเผลอดื่ม หรือเอามือเข้าปากไป สะสมในร่างกายมากๆ ก็จะไปทำปฏิกิริยาในร่างกาย ทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน เห็นภาพไม่ชัด หรือรุนแรงถึงขั้นตาบอด และอาจทำให้ไตอักเสบ กล้ามเนื้อตับตายหรือโลหิตเป็นพิษอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตทีเดียว

 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ส่วนแอลกอฮอล์ ที่เรานิยมใช้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ หรือเรียกว่าน้ำยาล้างแผลนั้น คือ เอทิลแอลกอฮอล์ เป็นแอลกอฮอล์อีกชนิดหนึ่ง ที่ได้จากการหมักพืชผลทางการเกษตร เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด แอลกอฮอล์ชนิดนี้ถึงจะกินได้ เพราะมีพิษทำให้เกิดอาการมึนเมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะนำน้ำยาล้างแผลมาดื่มแทนสุราได้ เนื่องจากใส่สีเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้นำไปรับประทาน ฉะนั้นขอให้พี่น้องประชาชนที่จำเป็นต้องสั่งสินค้าออนไลน์ ควรพิจารณาเลือกผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ หรือเมื่อได้สินค้ามาแล้วควรทดสอบก่อนว่า เป็น เอทิลแอลกอฮอล์หรือไม่ ด้วยวิธีการง่ายๆ คือ นำแอกอฮอล์ใส่ภาชนะตั้งไฟแล้วใช้ปรอทวัดจุดเดือด ถ้าเป็นของจริงจะมีจุดเดือดถึง 78 องศาเซลเซียส แต่ถ้าเป็นของปลอมที่ใช้เมทิลแอลกอฮอล์ จะเดือดแค่ 65 องศาเซลเซียส และหากดมดูก็จะรู้ว่าของปลอมนั้นกลิ่นฉุนแสบจมูก กว่าของจริง แต่ต้องระมัดระวังไม่สูดดมมากจนเกินไป ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้

 

“ขอเตือนมิจฉาชีพที่แสวงหาประโยชน์ ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หลอกขายสินค้าปลอมนั้นเป็นความผิดทางอาญา ฐานฉ้อโกงประชาชน ตามมาตรา 343 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 341 ได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ต้องด้วยลักษณะดังกล่าวในมาตรา 342 อนุมาตราหนึ่งอนุมาตราใดด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท

 

และถ้าเป็นการขายสินค้าปลอมผ่านออนไลน์ด้วยแล้ว ก็จะมีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ บัญญัติว่า “ผู้ใดกระทำความผิดโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำควมผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับและถ้าการกระทำความผิดข้างต้นมิได้กระทำต่อประชาชน แต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ผู้กระทำ ผู้เผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” น.ส.ทิพานัน กล่าว

รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในกรณีที่ขาดแคลนแอลกอฮอล์ พี่น้องประชาชนสามารถป้องกันตนเองด้วยการสวมถุงมือยาง หากต้องสัมผัสสิ่งของที่เสี่ยงมีเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการหยิบจับธนบัตร กดลิฟต์ หรือกดเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม และล้างมืออย่างถูกวิธีด้วยสบู่บ่อยๆ ก็จะสามารถป้องกันได้ และหากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดข้างต้น สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที เพื่อช่วยกันสอดส่องดูแลในยามวิกฤติเช่นนี้ ไม่ให้มิจฉาชีพทำร้ายเราและสังคมเพิ่มเติมได้

 

ด้วยความห่วงใยจาก  กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก  https://www.thairath.co.th/news/politic/1801606?fbclid=IwAR2uNYY0Q_sItrgd251MhPgOJXJIKvedJKN5Z3yjE0pNVIH-f0VwW0oI81E

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *