กรณีผู้สื่อข่าวเปิดเผย เรื่องราวความรักระหว่างสามีรุ่นลูกดูแลภรรยาวัย 64 ปี หรือคู่รักต่างวัย ครองคู่กันมานาน 14 ปี ในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลปากแพรก อ.สวี จ.ชุมพรคือนายสุรศักดิ์ ทักษิณชายหนุ่มวัย 37 ปีและนางกัลยา สิงห์สวาท ต่อมาภรรยาเกิดล้มป่วยพิการเดินไม่ได้ สามีผู้มีจิตใจประเสริฐรักแท้ ไม่คิดทอดทิ้งให้อยู่คนเดียวเพียงลำพัง ความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบากรายได้ไม่แน่นอนอาศัยเงินคนชราและผู้พิการช่วยบรรเทาก็ไม่เพียงพอ ส่วนรถวีลแชร์ที่มี ซื้อมาจากร้านของเก่าราคา 200 บาท สภาพทรุดโทรมจนเกือบใช้การไม่ได้ ขอบล้อไม่มียางต้องใช้เชือกฟางผู้ไว้ สนิมเขรอะ วอนผู้ใจบุญหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้าให้การช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ล่าสุดเพียงไม่กี่ชั่วโมง น.ส.วัลภา แก้วสวี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชุมพร ภายหลังทราบข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ทันที พร้อมกล่าวว่า เดินทางมาเพื่อเยี่ยมพร้อมให้กำลังใจและยื่นมือเข้าช่วยเหลือเงินเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นจำนวน 2,000 บาท แต่ครอบครัวนายสุรศักดิ์และนางกัลยานั้นจัดเงินอุดหนุนให้เป็นเงิน 5,000 บาทเป็นกรณีพิเศษ พร้อมนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อนายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรและนายกเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพรหาทางช่วยเหลือ
ทั้งนี้ได้แนะนำสิทธิเงินกู้คนพิการคือเสนอเงินกู้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ยากไร้ ผู้พิการ มีเงินทุนในการประกอบอาชีพ 20,000-60,000 บาท ผ่อนชำระ 5 ปีโดยไม่คิดดอกเบี้ย จ่ายเพียงเดือนละกว่า 1,000 บาท และจัดหาสนับสนุนอุปกรณ์เช่นรถเข็นวีลแชร์เพื่อใช้ประโยชน์ในการเคลื่อนที่ และกรณีสามีภรรยาไม่มีที่ดินเป็นของตนเองเนื่องจากยังอาศัยบ้านผู้อื่น หลังจากนี้จะดำเนินการพูดคุยหารือกับผู้บริหารท้องถิ่นเรื่องขอแบ่งที่ดินสักแห่งเพื่อไว้ปลูกสร้างบ้านพักอาศัยชั่วคราวจนกว่าจะถึงแก่กรรมเท่านั้นพอโดยไม่ต้องโอนที่ดิน
อย่างไรก็ตามด้านพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะกลับมาอีกครั้งเร็วๆนี้ ทั้งนี้ต้องของชื่นชมและให้กำลังใจนายสุรศักดิ์ฯที่ดูแลภรรยาเป็นอย่างดีไม่ทิ้งกันแม้อายุต่างกันมาก เจอกันไม่ใช่เรื่องของความบังเอิญ แต่เป็นเรื่องที่ต่างทำบุญร่วมกันมา น.ส.วัลภา กล่าว
ขอขอบคุณ https://www.banmuang.co.th/news/region/183990