คุณตาใจสู้ อยากพิชิตเขาเอเวอเรสต์มาทั้งชีวิต และทำสำเร็จ แม้กายชรา แถมไร้ขา !

 เปิดชีวิตชายพิการใจสู้ วัย 69 ปี ใฝ่ฝันอยากปีนเขาเอเวอเรสต์มาตลอดชีวิต และทำได้สำเร็จแม้ไม่มีขาทั้งสองข้าง เพราะความสำเร็จเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าใจกล้าพอ

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2518 หรือเมื่อ 43 ปีที่แล้ว เซีย ป๋ออวี้ ชายหนุ่มชาวจีน วัย 24 ปี เป็นหนึ่งในทีมผู้กล้าที่ขึ้นไปปีนเทือกเขาหิมาลัย หวังพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ยอดเขาสูงที่สุดในโลกที่เหล่านักปีนเขามากมายล้วนใฝ่ฝันอยากไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต โดยเมื่อคณะปีนเขาของป๋ออวี้ขึ้นมาถึงเดธโซน จุดอันตรายที่ความสูงกว่า 8,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล พวกเขาต้องหยุดพักชั่วคราวเนื่องจากมีพายุใหญ่ และมันอันตรายเกินกว่าจะฝ่าขึ้นไป เพื่อนคนหนึ่งในคณะเกิดล้มป่วยขึ้นมา ป๋ออวี้จึงเสียสละถุงนอนของเขาให้เพื่อน ซึ่งมันก่อให้เกิดผลร้ายที่คาดไม่ถึง เท้าทั้ง 2 ข้างของป๋ออวี้ถูกหิมะกัดอย่างรุนแรง เขาจึงไม่สามารถไปต่อได้ จำต้องกลับลงมา แม้ว่ายอดเขาเอเวอเรสต์จะห่างออกไปเพียงนิดเดียว   นับตั้งแต่วันนั้น ความปรารถนาในการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ก็ยังคงลุกโชนอยู่ในใจของป๋ออวี้ ถ้าเขาทำตามความฝันนั้นไม่ได้ เขาคงไม่มีทางนอนตายตาหลับ แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อเวลาผ่านไป 43 ปี ผู้ชายคนนี้จะสามารถทำมันได้สำเร็จ ทั้ง ๆ ที่อายุล่วงเลยมาถึงวัยชรา และไม่มีขาทั้ง 2 ข้างก็ตาม

เรื่องราวชีวิตของชายใจสู้คนนี้ สำนักข่าวบีบีซี ได้หยิบยกเอามารายงานเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 โดยหลังจากที่ป๋ออวี้ถูกหิมะกัดในตอนนั้น แพทย์จำเป็นต้องตัดเท้าทั้ง 2 ข้างของเขาออก ป๋ออวี้จึงต้องเรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตโดยไม่มีเท้ามาตั้งแต่นั้น แต่นั่นยังไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุด เพราะในปี 2539 ป๋ออวี้ล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เขาพยายามต่อสู้กับโรคร้ายอย่างเต็มที่ และต้องยอมสูญเสียขาทั้ง 2 ข้างตั้งแต่หัวเข่าลงไป เพื่อรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้  แม้ไม่มีขา แต่การพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ยังคงเป็นความฝันสูงสุดของชายคนนี้

“การปีนยอดเขาเอเวอเรสต์คือความฝันของผม สิ่งที่ผมตระหนักดีก็คือ มันไม่ได้เป็นแค่การท้าทายความกล้าของคนคนหนึ่งเท่านั้น แต่มันเป็นการท้าทายโชคชะตาอีกด้วย” ป๋ออวี้ กล่าวถึงความปรารถนาของเขา  หลังจากที่ต้องล้มเลิกกลางคันไปในปี 2518 ป๋ออวี้เดินทางกลับไปยังเนปาลอีกครั้งในปี 2557 เพื่อทำตามความฝันที่ตั้งเอาไว้ แต่มันก็ไม่สำเร็จ เพราะพายุหิมะพัดโหมกระหน่ำรุนแรงมาก ป๋ออวี้ยังคงฮึดสู้ไม่ท้อถอย เขากลับไปอีกในปี 2558 และ 2559 แต่โชคชะตาไม่เป็นใจ พายุหิมะยังคงเป็นอุปสรรคที่ใหญ่หลวง และมันก็ไม่สำเร็จทั้ง 2 ครั้ง ป๋ออวี้ตัดสินใจจะลุยอีกครั้งในปี 2560 แต่ก็ได้มีปัญหาใหญ่เกิดอีกขึ้นอีก ซึ่งในครั้งนี้มันไม่ใช่พายุหิมะ

โดยรัฐบาลเนปาลประกาศกฎความปลอดภัยใหม่ที่เคร่งครัดกว่าเดิม ซึ่งก็คือ นักปีนเขาที่มาคนเดียว ผู้พิการทางสายตา และผู้พิการที่ไม่มีขาทั้งสองข้าง ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นปีนเขาเอเวอเรสต์ แน่นอนว่าป๋ออวี้อยู่ในข่ายนี้ เขาเกือบจะต้องล้มเลิกความตั้งใจทุกอย่างแล้ว แต่ศาลเนปาลมองว่ากฎข้อนี้เป็นการเลือกปฏิบัติ และปัดตกไป ความหวังของป๋ออวี้จึงลุกโชนขึ้นอีกครั้ง  และแล้วในปี 2561 ป๋ออวี้ในวัย 69 ปี ก็เดินหน้าสู่การตามความฝันอีกครั้ง โดยข้อมูลจากสำนักข่าวเอเอฟพี ซึ่งเว็บไซต์ฟรานส์24 นำมารายงานนั้น เผยว่า ดาวา กยาลเจ เชอร์ปา นักปีนเขาผู้เคยพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์มาแล้ว 8 ครั้ง คือไกด์ผู้ดูแลป๋ออวี้และเพื่อน ๆ ร่วมทีมของเขา การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ป๋ออวี้มีจิตใจฮึดสู้อย่างที่สุดและไม่เคยคิดยอมแพ้ จนกระทั่งในวันที่ 13 พฤษภาคม 2561 เขาก็ทำสำเร็จ ป๋ออวี้สามารถสัมผัสยอดเขาเอเวอเรสต์ และเติมเต็มความฝันในใจได้ในที่สุด โดยเขาคือผู้พิการไร้ขาทั้ง 2 ข้าง คนแรกของโลก ที่สามารถพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกได้สำเร็จ

ความสำเร็จของชายชราชาวจีนที่ชื่อ เซีย ป๋ออวี้ ได้แสดงให้เห็นว่า คนเรานั้น ถ้ามุ่งมั่นทำสิ่งใดและพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อสิ่งนั้นแล้ว ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ คุณตาป๋ออวี้ได้พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่ามันคือเรื่องจริง และหวังว่าเรื่องราวของเขาคนนี้จะช่วยผลักดันให้ใครหลาย ๆ คนกล้าลุกขึ้นมาสู้ เพราะทุกสิ่งสามารถเป็นไปได้เสมอ ถ้าหัวใจเราแน่วแน่พอ 

https://hilight.kapook.com/view/172490

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *