จะอยู่กับแม่ ไม่ขอมีเมีย สุดยอดหนุ่มแขนเดียว กตัญญู สู้ชีวิต

หนุ่มเขนเดียว ทั้งกตัญญู สู้ชีวิต ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อความพิการ ฝึกใช้ไม้ไผ่สอยลูกตาลมาให้แม่เฉาะขาย ทำงานทุกอย่าง ฝากแง่คิดสุดคม ‘ชีวิตต้องดิ้นรน ยังมีคนอีกมากลำบากกว่าเรา’

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเมืองพรึก ถนนกุมภวาปี –หนองหาน ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี พบเพิงไม้ขายลูกตาลสดริมถนน ชื่อร้าน “เสกสรรน้ำตาลสด” โดยมีผู้หญิงชราเป็นคนเฉาะลูกตาลบนหลังกระบะรถปิกอัพสีแดง และชายพิการแขนเดียวเป็นคนขาย ทราบชื่อภายหลังว่า นางไหล หนันระหาญ อายุ 75 ปี และนายเสกสรร หนันระหาญ อายุ 42 ปี เป็นแม่ลูกกัน ชาวบ้านเหล่าใหญ่ ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เฉาะลูกตาลขายอย่างคล่องแคล่วให้ลูกค้า

นายเสกสรร เปิดเผยว่า ตนพิการแขนซ้ายขาดหลังจากประสบอุบัติเหตุเมื่อปี 2535 ขณะนั้นอายุ 16 ปี รักษาแผลหาย พร้อมกับแขนซ้ายที่หายไป 1 ข้าง แต่ตนไม่ยอมเป็นภาระของครอบครัว ช่วยพ่อแม่ทำนา ทำไร่อ้อย รับจ้างทั่วไป กระทั่งพ่อมาเสียชีวิตเมื่อปี 2540 จึงต้องรับหน้าที่ดูแลแม่ ส่วนพี่ชายแยกไปอยู่กับครอบครัว ทำงานทุกอย่างเหมือนคนปกติ และฝึกสอยลูกตาลด้วยท่อนไม้ไผ่จนคล่อง เมื่อถึงฤดูลูกตาล ตนจะขับรถปิกอัพด้วยมือเดียว บรรทุกท่อนไม้ไผ่ต่อกันด้วยท่อนเหล็กให้ยาว ออกไปซื้อลูกตาลตามทุ่งนาของชาวบ้าน พร้อมกับใช้แขนเดียวข้างเดียวที่มีสอยลูกตาลลงมาจากต้น นำมาเฉาะขายริมทาง

หนุ่มพิการสู้ชีวิต เล่าต่อว่า เลือกทำอาชีพนี้เนื่องจากต้นตาลใน อ.กุมภวาปี มีจำนวนมาก หาซื้อได้ง่าย ได้ทั้งน้ำตาล และลูกตาลมาขาย อีกทั้งเป็นอาชีพที่จะได้อยู่ใกล้ๆ แม่ จึงเลือกที่จะฝึกฝนตัวเองในการใช้ไม้ไผ่มากับท่อนเหล็กให้ยาวถึงยอดตาล ผูกปลายด้วยเหล็กตะขอ

ใช้มือเดียวยกขึ้นไปเกี่ยวลูกตาลลงมาจากต้น ถึงแม้จะต้องเหนื่อยกว่าคนอื่น และอดทนกว่าคนอื่น แต่ก็ฝึกจนสามารถใช้ไม้ไผ่เกี่ยวลูกตาลได้คล่อง สอยลูกตาลลงมา จากนั้นนำลูกตาลมาให้แม่เฉาะขายที่บ้านเมืองพรึก ริมถนนกุมภวาปี-หนองหาน ต.แชแล อ.กุมภวาปี

“ใจจริงอยากให้แม่พักอยู่บ้านเฉยๆ แต่คนมีแขนเดียวเฉาะลูกตาลไม่ได้ แม่ต้องมาช่วยเฉาะ ทำให้แม่ไม่เหงาด้วย ซึ่งก็ยอมให้แม่ช่วย รู้สึกภาคภูมิใจเพราะได้ทำหน้าที่ลูก ที่ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ในยามแก่เฒ่า แม้จะเหน็ดเหนื่อยมากแค่ไหน ก็ไม่ยอมแพ้ แม้ต้องพยายามกว่าคนปกติมากถึง 2 เท่า แต่ขอแค่ให้เริ่มต้นที่จะต่อสู้และมีความอดทน ก็จะประสบผลสำเร็จได้ เราเลือกทำอาชีพนี้ และทำมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ไม่ว่าจะสอยเอง แบกขึ้นรถเอง ที่สำคัญขับรถกระบะเอง เพื่อนำลูกตาลมาให้แม่เฉาะขายเลี้ยงชีพมีรายได้เดือนละประมาณ 1 หมื่นบาท” 

นายเสกสรร หนุ่มพิการสู้ชีวิต ยังให้แง่คิดกับคนที่กำลังท้อแท้ว่า เกิดเป็นคนอย่าดูถูกตัวเอง และไม่ต้องรอให้คนอื่นมาช่วยเหลือ อะไรที่เราพอทำได้ก็ให้ช่วยตัวเอง ความสามารถของคนเรามีกันทุกคน แต่มันอยู่ที่การฝึกฝนและอดทน ถึงตนจะเป็นคนพิการมีแขนเดียว แต่ยังมีคนที่แย่กว่าและยังลำบากกว่าเราอีกมากมาย เพราะชีวิตต้องดิ้นรน ไม่ว่าจะเป็นคนพิการหรือคนปกติทั่วไป พยายามใช้ชีวิตให้มีความสุข อยู่กับคนที่เรารักและรักเรา เหมือนกับตน ที่เลือกจะไม่มีครอบครัว แต่เลือกจะดูแลแม่ก็มีความสุขแล้ว

“เราไม่สู้ก็อยู่ไม่ได้ พ่อแม่ให้กำเนิดให้ชีวิตเลี้ยงดูเรามา ต้องไม่ทำให้พ่อแม่เป็นทุกข์ ไม่เป็นภาระ และเลี้ยงดูพ่อแม่เพื่อตอบแทนบุญคุณ แม้พิการก็ดูแลแม่ได้ ผมภูมิใจในตัวเองมาก

ทั้งนี้ สำหรับผู้พิการที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถใช้โทรสายด่วน 1479 คนพิการประชารัฐ ที่ให้บริการตลอด 24 ชม. หรือรายละเอียดที่ www.1479hotline.org เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนพิการที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถช่วยบริจาคเงินได้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0 นำใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ โทร. 0-2572-4042 ต่อ 8106

ขอบคุณจาก https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1293591

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *