“ซีพีเอฟ” ร่วมขับเคลื่อนสังคมไทยเอื้ออาทรและแบ่งปัน สานต่อ “โครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุข ผู้สูงวัย” ปีที่ 10

 

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าโครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุข ผู้สูงวัย เข้าสู่ปีที่ 10 ร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมไทยเป็นสังคมของการเอื้ออาทร กตัญญูรู้คุณ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ สอดรับแนวนโยบายของรัฐบาล ก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ

 

ปี 2564 ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) หมายถึง การมีประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สัดส่วน 20% ของประชากรทั้งหมด กลุ่มผู้สูงอายุเหล่านี้ ส่วนหนึ่งไร้ที่พึ่งพิง ไม่มีรายได้เพียงพอเลี้ยงตัวเอง และไม่มีลูกหลานดูแล นอกเหนือจากมาตรการภาครัฐที่ช่วยเหลือผ่านโครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยยังชีพคนพิการ ภาคเอกชนอย่างซีพีเอฟ ดำเนิน ”โครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุข ผู้สูงวัย” มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 10 พัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้สูงวัย

 

 

นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบริหาร กองทุนซีพีเอฟ คืนสุข ผู้สูงวัย เปิดเผยว่า โครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุข ผู้สูงวัย เป็นโครงการที่บริษัทดำเนินการมาต่อเนื่อง โดยมีพนักงานจิตอาสาสายธุรกิจต่าง ๆ ของซีพีเอฟทั่วประเทศ ช่วยเหลือและดูแลผู้สูงอายุไร้ที่พึ่งพิง ไม่มีลูกหลานดูแล ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งทุก ๆ เดือน บริษัทฯ จะนำเงินช่วยเหลือเพื่อใช้ดำรงชีพไปมอบให้แก่ผู้สูงอายุที่ได้รับการพิจารณาเข้าโครงการฯ เดือนละ 2,000 บาท จนกว่าผู้สูงอายุจะถึงแก่กรรมหรือมีลูกหลานมารับไปดูแล รวมทั้งช่วยดูแลสภาพความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ

 

 

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุไปแล้วรวม 869 ราย และล่าสุด ณ ปี 2563 มีจำนวนผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโครงการฯ อยู่ที่ 345 ราย ซึ่งทุก ๆ ปีจะมีการพิจารณาผู้สูงอายุรายใหม่เข้าร่วมโครงการฯ โดยมีเกณฑ์พิจารณา คือ อายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่มีลูกหลานดูแล อาศัยอยู่ในรัศมีห่างจากฟาร์ม โรงงานของซีพีเอฟไม่เกิน 5 กิโลเมตร และอาศัยอยู่มาไม่ต่ำกว่า 1 ปี ไม่ปรากฎว่าเป็นผู้ติดสุรา ยาเสพติด และการพนัน

 

“ซีพีเอฟตระหนักถึงความสำคัญของผู้สูงอายุในสังคม ที่ต้องได้รับการใส่ใจดูแลอย่างเท่าเทียม โครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุข ผู้สูงวัย เป็นส่วนหนึ่งที่จะเป็นพลังในการขับเคลื่อนสังคม รองรับการเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ รวมถึงการปลูกฝังค่านิยมของความกตัญญูรู้คุณ” นายวุฒิชัยกล่าว

 

 

นายวุฒิชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงการระบาดรอบล่าสุด ซีพีเอฟยึดแนวทางปฏิบัติของบริษัทฯ ในการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด รวมไปถึงกรณีที่จิตอาสาซีพีเอฟลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเยียนและนำเงินช่วยเหลือในการดำรงชีพไปมอบให้แก่ผู้สูงอายุ เข้มงวดเรื่องการเว้นระยะห่างในการสื่อสารกับผู้สูงวัย ต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ใส่ถุงมือ และมีเจลล้างมือติดไปทุกครั้งที่ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้สูงวัย

 

 

จากการที่บริษัทฯ ดำเนินโครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุข ผู้สูงวัย โดยมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งสอดรับกับแนวนโยบายของภาครัฐ ทางกรมกิจการผู้สูงอายุ ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหน่วยงานที่ขับเคลื่อนภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีหนังสือขอบคุณมายังโครงการฯ และขอบคุณบริษัทที่ขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว พร้อมทั้งชื่นชมการดำเนินโครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุข ผู้สูงวัย ของซีพีเอฟ ที่ให้ความสำคัญกับการดูแล แบ่งปัน ช่วยเหลือผู้สูงอายุ และร่วมสร้างสังคมแห่งการเอื้ออาทร เพื่อให้สังคมไทยเป็นเมืองน่าอยู่ ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี ใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข

 

 

 

 

ขอขอบคุณ  https://mgronline.com/business/detail/9640000013529

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *