เมื่อวันที่ (28 ต.ค.63) พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลมีมติเห็นชอบแนวทางแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคา 2 มาตรการ โดยจะให้ประชาชนทั่วไปมาขึ้นทะเบียนเป็นผู้ค้าสลากเพิ่มอีก 100,000 ราย เพื่อช่วยแก้ปัญหาคนตกงานจากโควิด และแก้ปัญหาผู้ค้าสลากที่ไม่มีสิทธิซื้อจอง สามารถเข้ามาซื้อสลากในราคาต้นทุน ใบละ 70.40 บาท เพื่อไปขายใบละ 80 บาท
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้สำนักงานฯ จะไปกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขผู้มีสิทธิลงทะเบียน และเสนอให้คณะกรรมการเห็นชอบอีกครั้งในเดือน พ.ย. โดยคาดว่าจะเปิดขึ้นทะเบียนใหม่ได้จริงภายในปีนี้ แต่ยังระบุไม่ได้ว่าจะมีการพิมพ์ลอตเตอรี่เพิ่มจาก 100 ล้านใบหรือไม่ เพราะต้องขึ้นอยู่กับว่าสลากพิมพ์ในขณะนี้ 100 ล้านใบ จะสามารถเฉลี่ยให้คนขายได้อย่างไร และมีความต้องการซื้อเพิ่มหรือไม่ ซึ่งตามกฎหมายสามารถพิมพ์ได้สูงสุด 200 ล้านฉบับต่องวด
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้มีการปรับสูตรการพิมพ์และจัดจำหน่ายสลากใหม่ เพื่อแก้ปัญหารวมชุด ซึ่งเป็นต้นตอของการทำให้ลอตเตอรี่แพง โดยจะมีการพิมพ์สลากฯแบบคละเลขทั้งหมด 100 ล้านใบ จากเดิมที่พิมพ์แบบคละเลขอยู่ 67 ล้านใบ และพิมพ์แบบเรียงเลข 33 ล้านใบ พร้อมกับมีการปรับสูตรการเรียงเล่ม จากเดิมใช้สูตร 2-2-1 ซึ่งจะมีสลากเลขซ้ำชุด 2 ใบ 4 เล่ม และสลากใบเดี่ยวเลขไม่ซ้ำ 1 เล่ม ปรับมาเป็น 2-1-1-1 สลากเลขซ้ำชุด 2 ใบ 2 เล่ม และสลากใบเดี่ยวเลขไม่ซ้ำ 3 เล่ม โดยมีจะมีผลตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธ.ค.63 เป็นต้นไป
นายบุญส่ง กล่าวต่อว่า ต่อไปการทำสลากฯรวมชุดจะทำได้ยากขึ้น ซึ่งรวมได้เต็มที่จะไม่เกินชุด 5 ใบ แต่หากจะรวมมากกว่านั้นจะทำได้ยากมาก ดังนั้นโอกาสที่จะเห็นสลากชุดใหญ่ 10-20 ใบ ถูกรางวัลเป็นร้อยล้านบาทก็แทบจะไม่มี โดยคาดว่า 2 มาตรการที่จะออกมาช่วยแก้ปัญหาสลากราคาแพงได้