นายศุภกร มูลสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานมอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้ผ่านการอบรมพัฒนาเวชศาสตร์ไทยการนวดเพื่อรักษาโรค รุ่นที่ 1 ที่หอประชุม โรงเรียนอาโอยาม่า 2 ตำบลด่านศรีสุข อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย โดยมีนายอชิรพัฒน์ สิงห์ทรายขาว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลด่านศรีสุข และประธานชมรมพัฒนาสมุนไพรไทยและการแพทย์แผนไทยจังหวัดหนองคาย, พลตรี ดร.ถิรเดช ทรัพย์เขื่อนขันธ์ กรรมการสภาครูแพทย์แผนไทย ให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ ยังได้จัดกิจกรรมโครงการหัตถเวช เพื่อผู้สูงวัยไม่ป่วยไม่พิการ ฝึกอบรมการนวดเพื่อรักษาโรคตามหลักวิชาหัตถเวชศาสตร์ไทยให้แก่ประชาชนชาวตำบลด่านศรีสุขทั้งหญิงและชาย เพื่อส่งเสริมรักษาวิชาความรู้หัตถเวชให้ยั่งยืน สร้างสุขภาพให้แข็งแรง และสร้างอาชีพสร้างรายได้ต่อไป พร้อมสนับสนุนให้หนองคายเป็นเมืองการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
นางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เปิดเผยว่า ในช่วงที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกยังปิดประเทศเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ตนมีความเห็นว่าประเทศไทยเราควรจะเตรียมการทุกด้านให้พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจากจีนและจากทุกประเทศทั่วโลก จึงร่วมมือกับสภาครูแพทย์แผนไทย ชมรมพัฒนาสมุนไพรไทยและการแพทย์แผนไทย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มสตรีแม่บ้าน ผู้สูงอายุ อสม. จัดโครงการ “หัตถเวชเพื่อผู้สูงวัยไม่ป่วยไม่พิการ” ฝึกอบรมการนวดเพื่อแก้ไขอาการเจ็บป่วยโดยไม่ต้องผ่าตัด เพื่อยกระดับการนวดแผนไทยเพื่อการผ่อนคลายให้เป็นการนวดเพื่อรักษาโรค ซึ่งวิชาหัตถเวชศาสตร์ไทยนี้ถ่ายทอดสืบต่อกันมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว แต่ขาดการส่งเสริมสนับสนุนให้นำมาใช้ทางการแพทย์รักษาอาการเจ็บป่วยของประชาชน ซึ่งใช้เวลาไม่นานและเสียค่าใช้จ่ายน้อยมาก
นางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ กล่าวอีกว่า ตนในฐานะประธานชมรมพัฒนาสมุนไพรไทยและการแพทย์แผนไทย จะขยายหัตถเวชศาสตร์การนวดรักษาโรคไปยังทุกตำบล เพื่อดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ผู้พิการ ให้ฟื้นฟูร่างกาย กลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขและจะส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนในชุมชน ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน มีการพัฒนาคุณภาพประสิทธิภาพให้สามารถบริการแก่คนไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จะเน้นกระจายพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพไปยังตำบล และเมืองรองทั่วประเทศ ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเที่ยวได้ทุกตำบล ทุกจังหวัด ที่ต้องทุกข์ทรมานกับอาการปวด และเมื่อได้รับการนวดที่ถูกวิธีจะทำให้แข็งแรงสุขสบายกลับไป ด้วยหัตถเวชศาสตร์ไทย สมุนไพรไทยและอาหารไทย ที่มีสรรพคุณป้องกันและรักษาโรคพร้อมอยู่แล้ว
“เราควรพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เร่งสร้างหมอนวดรักษาโรคให้มากพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยว ผู้สูงอายุจากทั่วโลก ให้เดินทางมารักษาสุขภาพและท่องเที่ยวในประเทศไทย เราสามารถวางแผนให้ทุกตำบลและทุกจังหวัดเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้ด้วยภูมิปัญญาไทยหัตถเวชศาสตร์ไทย ยาสมุนไพรไทย อาหารไทย และเวชสำอางสมุนไพรไทย รัฐบาลและองค์กรปกครองท้องถิ่นทุกตำบลทุกจังหวัด ควรส่งเสริมสนับสนุนนำภูมิปัญญาไทยที่มีคุณค่ามาเป็นยุทธศาสตร์ในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมให้เข้มแข็ง ยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเป็นศูนย์กลางยาสมุนไพรไทยเวชสำอางสมุนไพรไทยผลิตและส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก
ขอขอบคุณ http://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG200821214839337