ว่าฯ พิษณุโลก ปล่อยขบวนนักปั่นผู้พิการทางสายตา โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One left Behind

ผู้ว่าฯ พิษณุโลก ปล่อยขบวนนักปั่นผู้พิการทางสายตา โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One left Behind สมทบทุนสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

เช้าวันนี้ (1 ก.พ. 61) ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ หน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีการปล่อยแถวขบวนนักปั่นผู้พิการทางสายตา โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน On One Left Behind ซึ่งนำโดยศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมด้วยนักปั่นจักรยานของจังหวัดพิษณุโลก รวมถึงผู้พิการในจังหวัดพิษณุโลก ร่วมในพิธี รวมถึงประกอบพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อร่วมสมทบทุน ในโครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน On One Left Behind เพื่อสมทบทุนสร้าง ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการ

สำหรับกิจกรรม โครงการ “ปั่นไปไม่ทิ้งกัน สานต่องานที่พ่อทำ No One Left Behind” ทางมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดขึ้นเพื่อระดมทุนสนับสนุนการจัดสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยการนำผู้พิการ นักปั่นจักรยานตาบอดกว่า 20 ชีวิต รวมถึงนักปั่นจิตอาสาและผู้ดูแลคนพิการอีกกว่า 100 ชีวิต ร่วมขบวนปั่น 9 วัน พิชิตเส้นทาง 867 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ ถึงเชียงดาว ซึ่งได้มีการเปิดตัวโครงการฯ นำขบวนนักปั่นผู้พิการเริ่มต้นออกจากจุดสตาร์ทกิโลเมตรแรก ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา โดยขบวนจักรยานมีกำหนดการที่จะวิ่งผ่านเขตพื้นที่อีก 8 จังหวัด ทั้งสุพรรณบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ ลำปาง และเชียงใหม่ เพื่อมุ่งหน้าเดินทางสู่จุดหมาย ณ ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน (เชียงดาว) จังหวัดเชียงใหม่

โดยในวันนี้หลังจากมีพิธีปล่อยขบวนนักปั่น ณ จุดปล่อยตัวแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และนักปั่นจักรยานของจังหวัดพิษณุโลก ได้ร่วมกันขบวนนักปั่นและขบวนปั่นรณรงค์สิทธิคนพิการในเขตเทศบาลนครพิษณุโลกตามเส้นทางที่กำหนด ก่อนจะส่งขบวนนักปั่นผู้พิการทางสายตา ที่วันนี้มีเป้าหมายจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดอุตรดิตถ์ รวมระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร และจะเดินทางถึงที่หมายที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ รวมระยะทางการเดินทางรวม 867 กิโลเมตร

ขอบคุณ… https://goo.gl/7UJZP3

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *