พระผู้ให้ชีวิตใหม่! “พระพยอม” เลี้ยงดูผู้ทุกข์ร้อนยากไร้ 1,500 ชีวิต พร้อมรับคนตกงานอีกนับพัน!

 

รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี เพื่อสนทนากับหลวงพ่อพระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัด ซึ่งหลวงพ่อมีโครงการช่วยเหลือผู้ทุกข์ร้อนยากไร้มากมาย ปัจจุบันหลวงพ่อเลี้ยงดูคนที่ตกทุกข์ได้ยาก ไม่ว่าเด็กกำพร้า-คนชรา-คนตกงาน ฯลฯ ประมาณ 1,500 ชีวิต

 

สามารถดูรายการฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 2563 ย้อนหลังได้ที่ https://youtu.be/U1ZTsxZ4rf0

 

พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ซึ่งเป็นทั้งพระนักเทศน์ พระนักพัฒนา และพระนักสังคมสงเคราะห์ ถือว่าเป็นหนึ่งในศิษย์ผู้ใกล้ชิดท่านพุทธทาสภิกขุ แห่งสวนโมกข์ จ.สุราษฎร์ธานี หลวงพ่อพระพยอมไม่เพียงทำวัดสวนแก้วให้เป็น “วัดสวนโมกข์ชานเมือง” ตามปณิธานของท่านพุทธทาสที่อยากให้คนกรุงเทพฯ เข้าถึงสวนโมกข์ได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปไกลถึง จ.สุราษฎร์ธานี

 

 

“เราก็หนักใจว่า จะทำได้เหรอ เนื้อที่เป็นร้อยไร่ ถ้าสร้างสวนโมกข์แบบนั้นต้องเป็นร้อยไร่ ก็รับปากไปอย่างนั้น ครับ จะพยายามไปทำ” หลวงพ่อพระพยอมย้อนภาพตอนรับปากท่านพุทธทาสว่าจะทำวัดสวนแก้วให้เป็นวัดสวนโมกข์ชวนเมือง

 

 

หลวงพ่อพระพยอมไม่เพียงทำวัดสวนแก้วให้เป็นสวนโมกข์ชานเมือง แต่หลวงพ่อยังผุดโครงการเพื่อช่วยเหลือสังคมและประชาชนผู้ทุกข์ร้อนยากไร้หลายโครงการ เช่น โครงการสลบมา ฟื้นไป, โครงการที่พักคนชรา, โครงการช่วยน้องท้องหิว, โครงการซูเปอร์มาร์เก็ตผู้ยากไร้, โครงการผลไม้กระจายบุญ ฯลฯ

 

 

หลวงพ่อพระพยอมเป็นที่พึ่งของคนทุกเพศทุกวัย ทั้งเด็กกำพร้า คนชรา คนพิการ คนตกงาน หรือแม้แต่คนที่สังคมอาจไม่ต้องการ หรือไม่ให้โอกาส เพราะเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ แต่หลวงพ่อให้โอกาส ให้อาชีพ และรายได้ ปัจจุบันหลวงพ่อและวัดสวนแก้วเลี้ยงดูคนทุกข์ร้อนยากไร้อยู่ประมาณ 1,500 ชีวิต!!

 

 

หลวงพ่อพระพยอมไม่เน้นสร้างวัด-เจดีย์ แต่มุ่งสร้างงาน-สร้างอาชีพให้คนยากคนจนมากกว่า

 

“ตอนมีข่าวเรื่องคนไทยเหลื่อมล้ำเรื่องการมีที่ดิน เจ้าสัวก็มี 4-5 แสนไร่ แต่คนจน ตารางวาหนึ่งยังไม่มี เราเลยคิดว่าเราจะหยุดสร้างโบสถ์สร้างเจดีย์แบบวัดอื่นเขา วัดอื่นเขาสร้างกันเยอะแล้ว เราน่าจะสร้างงานสร้างอาชีพ เราก็เลยเก็บเงินทุกอย่างที่บิณฑบาตหรือไปเทศน์ ซื้อที่ดินๆๆ ซื้อจนได้ 3,900 ไร่(พื้นที่ทั้งหมดของวัดสวนแก้วทั้ง 11 สาขา) แล้วก็เอาคนจนที่ไม่มีที่ทำมาหากิน มาปลูกผัก กล้วย ผลไม้ แล้วเราเป็นฝ่ายหาพันธุ์ พันธุ์อะไรแปลกๆ ที่เกษตรกรทั่วไป บางทียังไม่ติดตามข้อมูลข่าวสารการเกษตร เราจะติดตามตัวไหนมีพันธุ์ใหม่ๆ เราจะมีพันธุ์มะม่วงอย่างเดียว 40-50 สายพันธุ์”

 

 

แม้หลวงพ่อพระพยอม พร้อมจะเป็นที่พึ่งให้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก แต่คนที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น ต้องไม่มีพฤติกรรม 3 อย่างนี้

 

“เราบอกว่าอย่ามี 3 ขี้มานะ ขี้เกียจ ขี้ขโมย ขี้เมา ถ้าไม่มี 3 ขี้นี้ มีเท่าไหร่ก็รับหมด แล้วอย่างนอนติดเตียงก็ไม่รับนะ เพราะเราไม่มีคนเลี้ยงดู เราจะเลี้ยงดูช่วงที่เขายังช่วยเหลือตนเองได้ พอติดเตียงเมื่อไหร่ ศูนย์ประชาบดี บ้านไร้ที่พึ่ง กรมประชาสงเคราะห์จะมารับต่อ”

 

 

จัดตั้งกองทุน เพื่อดูแลผู้สูงวัย

 

“ชีวิตเราเนี่ย ไหนๆ ก็มีคนสนับสนุนทำบุญทำทาน เรียกว่า พอจะมีบารมีเลี้ยงดูเขาได้ ก็เลยจัดตั้งกองทุนผู้สูงวัย ได้เงินเยอะ 4-5 ล้าน กองทุนนี้คนชอบบริจาค เพราะบางคนบอกว่า เผื่อแก่แล้ว ไปไหนไม่ได้ ก็จะได้มาอยู่ที่นี่ ตอนนี้มี 100 กว่าคน ทำมา 10 กว่าปีแล้ว”

 

 

โครงการ “สลบมา ฟื้นไป” ช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก

 

“จะมีโครงการหนึ่ง ชื่อว่า โครงการสลบมา ฟื้นไป คือจะให้มาทำงานที่นี่ 1 วัน 2 วัน 3 วัน 4 วัน จนกว่าตัวเองจะมีค่ารถ แล้วก็กลับบ้านได้ คือสลบมา มาแต่ตัวเลย เราก็จะรับ แบบบัตรประชาชนใบเดียวมา มาปุ๊บ เราก็จะหางานที่เหมาะกับคนๆ นั้น และให้ทำงานสัก 15 วัน 10 วัน แล้วเราถึงจะให้เขาเลือกว่าจะกลับบ้านหรือจะอยู่ต่อ เป็นโครงการของหลวงพ่อพระพยอม สลบมา ฟื้นไป ตอนนี้ก็มาเรื่อยๆ จนบางคนมาสร้างเนื้อสร้างตัวอยู่ที่นี่เลย ก็มี” พรสิน ศักดิ์สม ฝ่ายบุคคล วัดสวนแก้ว ขยายความโครงการ สลบมา ฟื้นไป

 

 

หลวงพ่อพระพยอม ให้โอกาสคนที่เคยพลาด กลับตัวเป็นคนดี และมีที่ยืนในสังคม

 

“ก่อนที่ผมจะเข้ามาทำงานว่า ผมเพิ่งออกจากคุกมา หลวงพ่อก็พูดว่า ถ้าอะไรไม่ดี ก็ปล่อยทิ้งไป แล้วก็เริ่มต้นใหม่ ตอนนี้ทางบ้านก็ดีใจมากที่ผมได้มาอยู่ใกล้ชิดกับหลวงพ่อ ผมยอมรับว่า ที่ผ่านมา ผมก็เป็นคนไม่ดีเท่าไหร่ แต่ผมก็อยากเป็นคนดีนะ ถ้ามีโอกาส แต่บางทีสังคมไม่ให้โอกาสเราครับ (จะร้องไห้) พี่พอจะเข้าใจใช่ไหม ส่วนมากจะปิดกั้น (ถาม-แต่หลวงพ่อให้โอกาสเรา?) ใช่ ผมภูมิใจมาก ผมไม่สนใจเรื่องค่าแรงเลยว่าจะให้เท่าไหร่ ก็แล้วแต่ท่านเลย เพราะท่านเป็นบุคคล เป็นพระที่อัจฉริยะ เป็นพระนักพัฒนาจริงๆ ท่านไม่คิดเอาเปรียบใครเลย” จิตรกร คนขับรถวัดสวนแก้ว

 

 

หลวงพ่อพระพยอม เปลี่ยน “คนชั่ว” ให้เป็น “คนดี” มาแล้วนับพันชีวิต!!

 

“คนที่ออกจากเรือนจำมา แล้วญาติพี่น้องไม่รับ เยอะนะ เขากลัวว่ามันจะไปก่อเรื่องอีก เขาก็จะเอามาพักไว้ที่นี่ จนกว่ามันจะเห็นช่องทางไปทำมาหากินข้างนอกได้ ก็ไป ถ้าไม่มีช่องทาง ก็อยู่กับเรา เยอะเลย อาตมาคิดว่าอาตมากลับใจคน เปลี่ยนคนชั่วให้เป็นคนดี น่าจะเป็นพันชีวิต” พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว

 

 

หลวงพ่อพระพยอมและวัดสวนแก้วไม่เพียงเป็นที่พึ่งของคนยากจน คนชราไร้ที่พึ่ง และคนพ้นโทษที่สังคมไม่ให้โอกาส แต่หลวงพ่อยังมีโครงการสวนแก้วเนอร์สเซอรี่ ที่ช่วยเหลือเลี้ยงดูเด็กกำพร้า พร้อมส่งเสียให้เรียนเมื่อถึงวัยอันควร

 

 

ตั้งกองทุนช่วยคนตกอับ รับคนตกงานได้อีกนับพันคน!!

 

“ตอนนี้ตั้งกองทุน ชุบชีวิตยามตกอับ ช่วงวิกฤตนี่ ชาวบ้านที่ไม่มีที่อยู่ เพราะถูกยึด หอบลูกหอบเมียมาอยู่กับเราหลายครอบครัว นี่เสียดายพ่อลูกที่โดดน้ำตาย ถ้ามาอยู่วัดนี้ รับรองไม่ตายทั้งพ่อทั้งลูก ไปนอนอยู่วัดอะไร อย่าเอ่ยชื่อ 2-3 คืน วัดอาจจะไม่ได้สนใจดูแล ถ้ามาวัดนี้ รับรองไม่ตายทั้งพ่อทั้งลูก กองทุนชุบชีวิตยามตกอับ ตอนน้ำท่วม ไฟไหม้ อะไรก็แล้วแต่ อาตมาไปก่อนเพื่อน สึนามิก็ไป ตอนนี้สาขาแต่ละสาขาของวัดสวนแก้วสามารถรองรับช่วยเหลือคนได้เป็นพัน อาชีพหลักของเราคือ เกษตร”

 

 

คติธรรมประจำใจ “หลวงพ่อพระพยอม”

 

“เรามีคติธรรมประจำใจว่า ใช้เวลาทุกนาทีให้มีประโยชน์ …คิดอย่างเดียว ชีวิตยังไงจะเกิด มันไม่เป็นโมฆะ ไม่เกิดเปล่า แก่เปล่า ตายเปล่า อยู่เปล่าๆ แก่เปล่าๆ ตายเปล่าๆ นี่ มันเสียชาติเกิด เพราะฉะนั้นเกิดมาทั้งที มันต้องทำอะไรให้ชาติบ้านเมือง เรากินใช้ทรัพยากรของโลก แต่เราไม่สร้างอะไรให้โลกสร้างสรรค์สวยงามเลย เราก็เอาเปรียบโลก เอาเปรียบชาติ เอาเปรียบวงศ์ตระกูล วงศ์ตระกูลที่เราเกิดมา เราไม่มีส่วนสร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลบ้างเลยเหรอ ไม่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติบ้างเหรอ ไม่สร้างอะไรให้คนทั้งโลกได้รับรู้ได้ดูได้เห็นบ้างเหรอ”

 

 

ฝากข้อคิด ยามวิกฤต อย่าท้อ ขอให้ทุกคนสู้ต่อไป

 

“โยม เคยได้ยินคำนี้กันไหม ชีวิตคือการต่อสู้ …ยุคอาตมาเด็กๆ ต้องไปเอาน้ำในแอ่งควาย เท้าควาย แก้หิว ไม่มีน้ำขวด เดี๋ยวนี้สบายเยอะแล้ว ขอให้สู้ชีวิตต่อไป อย่ารีบรมควัน อย่ารีบโดดน้ำตาย อย่ารีบผูกคอตาย ยิงตัวตายเลย อยู่ดูฟ้าหลังฝน อยู่สู้ต่อไป ตายซะในการต่อสู้เนี่ย มันดีกว่าอยู่อย่างคนแพ้นะ คนแพ้ยังไม่ทันสู้เลย โดดน้ำตายแล้ว รมควันตายแล้ว สู้หน่อย ขอคำเดียว สู้ๆๆ”

 

 

หากท่านใดต้องการร่วมบุญสนับสนุนโครงการต่างๆ ของทางมูลนิธิสวนแก้ว ที่ทำเพื่อสังคมและช่วยเหลือประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยากในความดูแลของทางวัดกว่า 1,500 คน สามารถบริจาคไปได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางใหญ่ ชื่อบัญชี มูลนิธิสวนแก้ว โดยพระราชธรรมนิเทศ เลขที่บัญชี 269-2-12533-1

 

 

หรือหากท่านใดมีสิ่งของเครื่องใช้หรือของเก่าที่ไม่ใช้ประโยชน์แล้ว สามารถบริจาคให้วัดสวนแก้วได้เช่นกัน เพื่อเข้าโครงการ ซูเปอร์มาร์เก็ตผู้ยากไร้ ซึ่งจะทำการซ่อมแซมและจำหน่ายต่อในราคาถูก สนใจบริจาค สามารถติดต่อได้ที่วัดสวนแก้ว โทร. 02-921-5023

 

 

 

 

ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos

 

 

ขอขอบคุณ  https://mgronline.com/news1/detail/9630000053136

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *