“จุติ” เตรียมหารือก.คลังของบ 30,000 ล้านบาท ช่วยเหลือเยียวยากลุ่มคนเปราะบางที่ตกสำรวจ และเดือดร้อนจากผลกระทบ โควิด-19 เช่นกัน
ที่ชุมชนคนหูหนวก ถนนพระราม 9 กรุงเทพฯ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจและช่วยเหลือกลุ่มคนเปราะบางทางสังคมที่เป็นกลุ่มคนพิการ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 พร้อมทั้งมอบแนวทางการดูแลชุมชนด้วยชุมชน ก่อนจะลงพื้นที่ชุมชน ส.พัทยา หลังบริเวณย่านอาร์ซีเอ เขตห้วยขวาง ด้วย
นายจุติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ว่า ชุมชนแห่งนี้มีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก สร้างบ้านอยู่ใต้สะพาน มีสมาชิกในชุมชนหลายสิบครอบครัว ซึ่งหลายคนมีอาชีพแต่ยังไม่สามารถกลับไปทำงานได้ เช่น งานโรงแรม หรือ งานทำความสะอาดห้าง แต่ยังต้องเสียค่าเช่าบ้านทางกระทรวงฯจึงได้ให้แนวทางช่วยเหลือ โดยเสนอให้ย้ายไปอยู่ในที่อยู่ของการเคหะแห่งชาติ เพื่อให้อยู่เป็นสัดส่วนและมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ส่วนผู้ที่มีทักษะทางด้านการช่าง เช่น ช่างซ่อม ช่างไม้ ช่างปูน ก็จะมีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้
ทั้งนี้ ทางปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะดูแลในส่วนของการฝึกอาชีพให้กับผู้ที่จบการศึกษาแล้วยังไม่มีงานทำ เพื่อให้มีทักษะอาชีพพร้อมเข้าไปทำงาน ส่วนนักศึกษาที่ยังขาดแคลน และผู้พิการที่ยังต้องการความช่วยเหลือจากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ทางกระทรวงก็จะดูแลให้ครบถ้วน โดยส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลทุกเดือน ซึ่งหากชาวชุมชนตัดสินใจย้ายเข้าไปอยู่ในที่อยู่ใหม่ ก็จะทำให้สามารถเข้าสู่สังคม และประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่เป็นภาระของใคร
อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ยังพบว่า มีกลุ่มที่ตกสำรวจ และต้องมีการเก็บตกเพื่อหามาตรการช่วยเหลืออีกจำนวนมาก โดยเฉพาะในชุมชนที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนและอยู่นอกทะเบียนอีกจำนวนมาก ซึ่งบางเรื่องก็ต้องจัดการแก้ปัญหาทันที ยืนยันว่า เราไม่ทำงานเอาหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการทำงานมากเกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่มีคนรู้และยังทำงานอย่างต่อเนื่อง กระทรวงจึงได้ขอความร่วมมือจากองค์กรพัฒนาเอกชน หรือ เอ็นจีโอ และส่วนงานภาคประชาชนในการช่วยกันชี้เป้าและเฝ้าระวังเพื่อให้ทางกระทรวงได้ทำการช่วยเหลือต่อไป โดยการเยียวยาของกระทรวงดำเนินการตลอด 365 วัน 24 ชั่วโมง ซึ่งแตกต่างจากที่รัฐบาลทำอยู่ จึงไม่ต้องกังวลว่าในอนาคตหากรัฐบาลมีการยุติมาตรการเยียวยาแล้วคนกลุ่มนี้จะไม่ได้รับความช่วยเหลือ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้เป็นเป้าหมายหลักในการทำงานของกระทรวง ไม่ใช่ช่วยเฉพาะแค่ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เท่านั้น
