ไบร์ท-วิรุตม์ อภัยวงศ์ ผู้เข้าร่วมโครงการ IW กับบทสัมภาษณ์ “รักครั้งแรกบนความเลือนราง”

รักครั้งแรกบนความเลือนราง

 

ในภาพอาจจะมี 1 คน

 

เมื่อราวปลายปีก่อนได้มีโอกาสดูคลิป ๆ หนึ่ง ที่เป็นบทพูดให้กำลังใจถึงคนพิการ เด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่ง เขาได้เปรียบเทียบไว้อย่างน่าฟังถึงรักครั้งแรกกับการจ้างงานของบริษัท ซึ่งมันเป็นอะไรที่ดูเซ็กซี่มาก

เด็กหนุ่มคนที่ว่า เป็นชายหนุ่มสูงโปร่ง ผิวขาวและมีท่าทีขี้เล่น เขาคนนี้เป็นเจ้าของชื่อที่ว่า “ไบร์ท-วิรุตม์ อภัยวงศ์” ประสบการณ์ความรักครั้งแรกของเขาจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านกันได้เลยจ้า

 

สวัสดีค่ะ แนะนำตัวหน่อยค่ะ..

– สวัสดีครับ ผมชื่อ วิรุตม์ อภัยวงศ์ ชื่อเล่นชื่อ ไบร์ท อายุ 26 ปี สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม สาขาการจัดการธุรกิจไซเบอร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒ เป็นผู้พิการทางสายตา สายตาเลือนรางครับ

 

ปกติแล้ว คุณไบร์ทรักที่จะทำอะไรคะ?

– ผมก็รักหลาย ๆ อย่างนะ บางอย่างก็เพิ่งมาหลงรักมันหลังจากป่วยเนี่ยแหละ ผมมีความรักให้กับ ดนตรีไทย ดนตรีสากล หรือไม่ก็พวกกีฬา ผมชอบเล่นไตรกีฬามากครับ รู้จักไตรกีฬาไหม? มันคือ กีฬาที่ประกอบขึ้นจากกีฬา 3 ชนิด คือ วิ่ง ปั่นจักรยานและว่ายน้ำ มันคล้าย ๆ กับการวิ่งมาราธอนนั่นแหละ แต่แบ่งกีฬาเป็น 3 ประเภทเท่านั้นเอง

 

แล้วตอนนี้มีความรักอยู่กับใครคะ?

– (ยิ้ม) รักครั้งนี้ของผมเป็นนักต่อสู้คนหนึ่งเลยทีเดียว ใคร ๆ ต่างก็เรียกเธอว่า dss มศว ตำแหน่งนักวิชาการศึกษา สังกัดส่วนกิจการนิสิต

 

แล้วเขารับได้ไหมกับความพิการของเรา?

– ผมเป็นผู้พิการทางสายตา สายตาเลือนราง ก็จะมองเห็นบ้างไม่เห็นบ้าง ทาง dss เขาก็เข้าใจเราดีนะ แล้วเราก็เข้าใจคนที่เข้ามารับบริการได้ดีเหมือนกัน อะไรที่มันมีทิศทางทั้งไปและกลับ มักจะเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น ความรักของพวกเราครั้งนี้จึงไม่มีความพิการเป็นอุปสรรค แต่เรากลับมองว่ามันเป็นความท้าทายเสียมากกว่า

 

ความรักครั้งนี้มันมีที่มายังไงคะ?

– อันนั้นต้องย้อนไปเมื่อตอนเรียนจบครับ ตอนนั้นผมได้มีโอกาสได้รู้จักกับมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม ซึ่งเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนเพื่อคนพิการโดยเฉพาะ ตอนนั้นก็แบบสนใจนะ แบบ เฮ้ย ! มันยอดไปเลยอะ ยิ่งเห็นสิ่งที่พี่ ๆ เขาทำ ยิ่งประทับใจสุด ๆ ไปเลย ตอนนั้นผมเป็นนิสิตที่ มศว ก็ได้แวะเวียนไปที่ dss อยู่บ่อย ๆ ก็เลยทำให้ได้รู้จักกับมูลนิธินี้มากยิ่งขึ้น
หลังจากนั้นก็มีพี่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของมูลนิธินี่แหละ มาชักชวน มาอธิบายว่าอะไรเป็นยังไง ดู ๆ ไปแล้ว มูลนิธิก็เหมือนคนกลางระหว่างคนพิการกับบริษัท คอยช่วยประสานงาน คอยฝึก คอยเชื่อมั่น ว่าพวกเรามีศักยภาพ เราสามารถที่จะก้าวต่อไปในสังคมนี้ได้อย่างสวยงาม
ผมจึงได้เข้าร่วมโครงการ Inclusive workplace หรือเรียกสั้น ๆ ว่า IW แปลได้ประมาณว่า สถานที่ทำงานที่อยู่ด้วยกัน อย่างเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน

 

แล้วใน IW เนี่ยจะมีโครงการย่อยอีกหนึ่งโครงการ เรียกว่า Internship ซึ่งผมก็เป็น 1 ใน intern ที่เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย

 

สิ่งที่ได้จากการเข้าร่วมการเป็น intern คือ ได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง ถ้าจะให้แปล Intern คือเด็กฝึกงาน ที่บางทีก็ไม่ได้รับความสำคัญมากเท่าไหร่ ผิดกับที่นี่ที่จะช่วยสอน ช่วยฝึก พอได้มาสัมผัสแบบเฮ้ยมันดีนะ ! ได้ประสบการณ์เยอะแยะมากมายจากตรงนี้ แล้วเป้าหมายหลักของโครงการนี้เพื่อให้คนพิการมีงานทำ พี่ ๆ ในโครงการก็เลยฝึกเราเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น แล้วในที่สุด ผมก็มีโอกาสได้เจอกับ dss มศว

 

มีรักครั้งไหนที่รู้สึกประทับใจเป็นพิเศษไหมคะ

มีครับ เมื่อราวปลายปีก่อน ผมได้เข้าร่วมการแข่งขัน swimathon ครั้งนั้นก็ยากมากเหมือนกัน เกือบเอาชีวิตไม่รอดแน่ะ มันเป็นเหมือนการแข่งมาราธอนที่ต้องใช้การว่ายน้ำแทนน่ะครับ

 

ที่ผ่านมาเคยเจอกับรักที่ทำให้เราต้องเสียใจไหมคะ

– ก็มีบ้างครับ (ยิ้มเศร้า ๆ ) คือเมื่อราว 10 กว่าปีก่อน ตอนผมอายุราว 10 ขวบ ช่วงนั้นผมปวดหัวบ่อย เป็นอยู่ร่วมเดือนจึงไปหาหมอ และพบว่าผมเป็นเนื้องอกที่สมอง แถว ๆ ท้ายถอย ขนาดราว ๆ กำปั้นแน่ะ และนั่นทำให้ผมค่อย ๆ สูญเสียการมองเห็นไป อะไร ๆ มันก็เริ่มไม่ชัดเจน คือเราก็เป็นเด็กคนหนึ่งอะเนอะ อยู่ในวัยกำลังซน กำลังสนุกกับชีวิตเลย พอมาเจอแบบนี้เข้าไปก็ไปแทบไม่เป็นเหมือนกัน ใช้เวลาอยู่นานเลยล่ะ กว่าจะยอมรับความจริงได้

 

แล้ววางแผนอนาคตไว้ยังไงบ้างคะ

– คิดว่ายังจะทำงานที่นี่ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีเป้าหมายอะไรชัดเจน แต่ถ้ามีกิจกรรมอะไรที่น่าสนใจ ก็พร้อมที่จะเข้าร่วมเสมอครับ

 

อยากฝากอะไรทิ้งท้ายไว้สำหรับคนอ่านไหมคะ

– ผมว่าไปเยอะละ ก็ไม่มีไรจะฝากเพิ่มเติมแล้ว เพียงแต่อยากให้เชื่อในศักยภาพของเรา เชื่อว่าเราจะทำได้ และลงมือทำให้ดีที่สุด ไม่มีอะไรหยุดเราไม่ให้ทำได้ นอกจากเราจะไม่อยากทำมันเอง

 

“ IW ในความคิดผมเมื่อตอนไปทำงานมันคือ การทำงานร่วมกันระหว่างคนพิการและคนไม่พิการ ในสถานที่ทำงานเดียวกันอย่างเอื้อเฟื้อ และเข้าใจถึงศักยภาพ และพร้อมที่จะปรับตัวกันทั้งสองฝ่าย ผมมีรักครั้งแรก แล้วรักครั้งแรกของผมสมหวังเพราะผมเชื่อว่าตัวเองมีความพยายามมพอ ผมอยากฝากถึงคนพิการทุกคนให้กล้าออกมาหางาน กล้าค้นหารักครั้งแรกให้เจอแบบไม่ต้องกลัวอกหัก แล้วสักวันจะเป็นของคุณ ”—-ไบร์ท วิรุตม์

 

ในภาพอาจจะมี 14 คน, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่ในร่ม

 

ในภาพอาจจะมี 9 คน, ผู้คนกำลังยืน และ รองเท้า

 

ในภาพอาจจะมี 1 คน, หมวก และ สถานที่กลางแจ้ง

 

ในภาพอาจจะมี 2 คน, จักรยาน และ สถานที่กลางแจ้ง

 

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ภาพระยะใกล้ และ สถานที่กลางแจ้ง

 

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยืน, สนามกีฬา, ท้องฟ้า, พื้นหญ้า และ สถานที่กลางแจ้ง

 

สัมภาษณ์โดย #LL ผู้อยากกินจุ้ง

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก  https://www.facebook.com/konpikanthai/posts/2386173428274203?__tn__=K-R

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *