กรมอุทยานฯไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ให้โอกาสคนพิการทำงานจนส่งเสียครอบครัวและน้องได้เรียน
“นีกับน้อย” สองหนุ่มพิการทางสมองและสายตา ได้มีโอกาสทำงานที่ สวนรุกขชาติห้วยแก้ว เชียงใหม่ ทั้งสองคน เป็นพนักงานสุดขยันสามารถทำได้ทุกอย่างเช่นคนปกติแถมเจียดเงินเดือนส่งแม่ส่งน้องเรียนหนังสือ
และกรมอุทยานฯเล็งเปิดรับสมัครคนพิการเข้าทำงานทั่วประเทศ
โดนเรื่องของหนุ่มพิการทางสมองและสายตาทั้งสองคนได้โอกาสจากหน่วยงานราชการจนเกิดกระแสฮือฮาในสังคมออนไลน์ขณะนี้ถูกเปิดเผยโดยนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมสวนรุกชาติห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งนอกจากความร่มรื่นของแมกไม้นานาพันธุ์รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างมีความสุขแล้วในระหว่างประชาชนได้ใช้บริการอยู่นั้นปรากฏภาพของชายหนุ่ม 2 คนพิการทางสายตาแต่สวมเครื่องแบบเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯกำลังลงมือเก็บกวดใบไม้อย่างขยันขันแข็ง และเมื่อมีโอกาสสอบถามจึงทราบความจริงว่าสวนรุกขชาติห้วยแก้ว ได้รับบรรจุเป็นลูกจ้างตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเงินเดือนส่วนหนึ่งยังส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่กับส่งน้องให้เรียนหนังสืออีกด้วย

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนางอภันตรี เชื้อชม หัวหน้าสวนรุกขชาติห้วยแก้ว ทราบรายละเอียดว่าหนุ่มพิการคือนายอัศนี พัฒนะโชคชัย อายุ 22 ปีบ้านเดิมอยู่ จ.แม่ฮ่องสอน อีกคนชื่อนาสุวพิชญ์ เหล็กกลิ่น เป็นชาวพิษณุโลก ทั้งคู่มีความพิการทางสายตาและสมองเข้ามาเรียนที่เชียงใหม่โดยโครงการของรัฐกระทั่งพลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯมีโครงการสวนป่าประชารัฐ ทางโรงเรียนสอนคนตาบอดจึงส่ง “นีกับน้อย”มาร่วมงานซึ่งในตอนนั้นมีการแสดงดนตรีเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนที่มาใช้บริการมากเมื่อบวกกับนโยบายรัฐเรื่องลดความเหลื่อมล้ำ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชโดยนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯจึงให้นโยบายรับคนพิการที่พอมีศักยภาพเข้ามาร่วมทดลองทำงานจุดนี้เองจึงติดต่อไปยังโรงเรียนสอนคนตาบอด

“นับเป็นเรื่องใหม่แต่เป็นการเรียนรู้ร่วมกัน ทั้งกับเขาและกับเรา ตอนเข้าบรรจุเงินเดือน 6,500 บาทตามที่โรงเรียนคนตาบอดขอมาเมื่อผ่านงานแล้วจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นพนักงานทุกคน สวัสดิการอื่นๆมีพร้อมเราจัดที่พัก อาหารให้ตอนนี้ทั้งนี กับน้อย สามารถปรับตัวทำงานได้ดี ทั้งเก็บใบไม้ทำความสะอาดพื้นที่ ผสมดินเพาะกล้า ไม่แค่เพียงทำงานให้กับสวนรุกขชาติฯได้แต่ยังสอนประชาชนที่เข้ามาเรียนรู้อย่างน่าทึ่งอีกด้วย”

สำหรับความประทับใจจากเพื่อนร่วมงานและบุคคลภายนอกที่เข้ามาเห็นก็คือนี กับน้อย มีความกระตือรือร้นที่จะบริการประชาชน นอกจากความขยันขันแข็งแล้วรายได้ในแต่ละเดือนยังแบ่งส่งทางบ้านโดยนายอัศนี แบ่งเงินเดือนจำนวน 2 พันบาทส่งให้น้องชายวัย 10 ขวบเพื่อใช้ในการเรียนหนังสือทุกเดือนนายสุวพิชญ์ ฝากเจ้าหน้าที่การเงินโอนให้บิดา-มารดาเดือนละ 2 พันบาทเช่นกันทุกเดือน “ท่านอธิบดีฯมาเยี่ยมสวนรุกขชาติห้วยแก้ว เมื่อเร็วๆนี้เมื่อเข้าไปสอบถามนี กับน้อย จนทราบถึงความกตัญญูถึงกับน้ำตาซึม และดิฉันรายงานท่านว่าทุกครั้งที่นี กับน้อยลาหยุดกลับไปเยี่ยมบ้านพอกลับมาพ่อแม่ และเพื่อนๆที่พิการจะมาส่ง ภาพพ่อแม่กอดลูกร้องให้ด้วยความภูมิใจที่ลูกสามารถยืนอยู่ในสังคมเหมือนคนอื่นๆ พร้อมกับเพื่อนพิการที่เห็นรุ่นพี่เข้าบรรจุทำงาน เขาก็มีแรงบันดาลใจ เห็นคุณค่าของชีวิตเตรียมสนองนโยบายรัฐบาลให้การช่วยเหลือรับคนพิการเข้าทำงานกับกรมอุทยานฯเพิ่มขึ้น”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *