พา’น้องปาล์ม’เหยื่อรถตู้สธ. ขอเนติบัณฑิตยสภาช่วยเหลือ

รองโฆษกอัยการสูงสุดพา “น้องปาล์ม” เหยื่อรถตู้สาธารณสุขชนพิการ ขอความช่วยเหลือเนติบัณฑิตยสภา หลังกระทรวงสาธารณสุขยื้อ ยื่นอุทธรณ์ไม่ยอมจ่าย 2.9 ล้านตามคำพิพากษา

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ ที่เนติบัณฑิตยสภาในพระบรมราชูปถัมภ์ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกอัยการสูงสุด ได้พานางปวีณา หาทรัพย์ อายุ 31 ปี อดีตลูกจ้างชั่วคราวใน รพ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น มารดาของ “น้องปาล์ม” วัย 4 ปี บุตรชาย พร้อมตัวน้องปาล์มที่ถูกรถของหน่วยงานราชการสาธารณสุขใน จ.ขอนแก่น ชนจนพิการช่วงล่าง ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.2558 ซึ่งขณะนั้นน้องปาล์มอายุขวบเศษ เพื่อเข้าขอความช่วยเหลือด้านทนายความและข้อกฎหมายกับทางเนติบัณฑิตยสภา

นายโกศลวัฒน์กล่าวว่า ตนได้พานางปวีณามาขอความช่วยเหลือด้านกฎหมาย หลังจากที่เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2560 ศาลจังหวัดชุมแพได้มีคำพิพากษาในส่วนคดีแพ่ง ให้กระทรวงสาธารณสุขชดใช้ค่าเสียหายแก่น้องปาล์มจำนวน 2,900,000 บาท แต่ต่อมากระทรวงสาธารณสุขได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา โดยศาลจังหวัดชุมแพได้ส่งหมายสำเนาอุทธรณ์มายังบ้านของนางปวีณา เพื่อให้นางปวีณาซึ่งเป็นผู้แทนของบุตรชายยื่นแก้อุทธรณ์ของกระทรวงสาธารณสุขภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหมาย มิเช่นนั้นจะถือว่าไม่ติดใจแก้อุทธรณ์ ซึ่งหลังจากนางปวีณาได้ทราบว่ามีหมายดังกล่าวส่งมาในวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้ขอความช่วยเหลือมายังตน ซึ่งในมุมมนุษยธรรมแล้ว ตนเห็นใจมาก นางปวีณาเป็นชาวบ้านไม่มีเงิน ก่อนหน้าที่ศาลจะมีคำพิพากษาให้จ่าย 2.9 ล้านบาท นางปวีณาก็เสียเงินจ้างทนายเองจนเงินที่เก็บไว้ร่อยหรอไปหมด ถึงได้บากหน้ามาขอความช่วยเหลือจากอัยการ

นายโกศลวัฒน์กล่าวว่า ในขณะนั้นสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด (สคช.) ไม่สามารถช่วยเหลือทางด้านทนายความได้ เนื่องจากนางปวีณามีทนายความอยู่แล้ว ตนมองว่าระเบียบตรงนี้ควรมีการแก้ไข เพราะถือว่านางปวีณาได้พยายามช่วยเหลือตนเองจนเงินเก็บที่มีอยู่ไม่เหลือแล้ว จึงมาขอให้ สคช.ช่วยเหลือ ทั้งนี้ หลังจากได้ยื่นขอความช่วยทางด้านกฎหมายและทนายความในวันนี้แล้ว ทางเนติบัณฑิตยสภาก็จะนำเรื่องเสนอเข้าสู่การพิจารณาว่าจะดำเนินการกรณีนี้อย่างไรต่อไป ก็คาดหวังว่าเรื่องจะได้รับการพิจารณา เพราะระยะเวลาที่จะเขียนแก้อุทธรณ์เหลือไม่มากแล้ว

ด้าน นางปวีณากล่าวว่า เพิ่งได้รับหมายให้แก้อุทธรณ์จำเลยเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ทราบว่าก่อนหน้านี้ทางกระทรวงสาธารณสุขมีการขยายระยะเวลาอุทธรณ์หลายครั้ง ซึ่งตนก็หวังไว้ว่ากระทรวงสาธารณสุขจะไม่ยื่นอุทธรณ์เพื่อตนจะได้นำเงินไปใช้รักษาลูก แต่กระทรวงสาธารณสุขก็ยื่นอุทธรณ์มาโดยขอให้ศาลลดค่าความเสียหายที่ต้องจ่าย เหลือ 2.4 ล้าน และให้นายสราวุฒิ สามีของตนเป็นผู้มีส่วนร่วมที่จะต้องชดใช้ความเสียหายกึ่งหนึ่งด้วย ตนไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครเลยเข้าร้องขอความช่วยเหลือนายโกศลวัฒน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ ก่อนหน้านี้ในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญา ที่ฟ้องนายเกต นาถมทอง อายุ 68 ปี คนขับรถโรงพยาบาล เป็นจำเลยฐานกระทำโดยประมาทขับรถชนนายสราวุฒิ เจิมขุนทด และ ด.ช.ปราบปราม หรือน้องปาล์ม จนศาลลงโทษจำคุกไปแล้ว ส่วนคดีแพ่งที่ได้มีการฟ้องร้อง จำเลยผู้ขับรถและกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดนั้น ก่อนหน้านี้นายโกศลวัฒน์และนายประเสริฐ กาญจนอุทัย อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สคช. ได้เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้กระทรวงสาธารณสุขจำเลยยอมชดใช้เงิน 2 ล้านบาทแก่โจทก์ จากที่เเต่เดิมเรียกไป 5 ล้านบาท แต่การเจรจายังไม่สำเร็จ จนศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้ 2.9 ล้านบาท แต่กระทรวงสาธารณสุขได้ยื่นอุทธรณ์คดีต่อจนเป็นที่มาของการร้องขอความช่วยเหลือจากนายโกศลวัฒน์ เพื่อประสานขอความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่เนติบัณฑิตสภาในวันนี้.

ขอบคุณ… https://www.thaipost.net/main/detail/12588

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *