15-25 ก.พ. อำนวยความสะดวกคนแก่ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ลงทะเบียน “เราชนะ”

 

“รัชดา” เผย รัฐบาลพร้อมอำนวยความสะดวก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการ เข้าถึงโครงการ “เราชนะ” ย้ำลงทะเบียน 15-25 ก.พ. ใช้จ่ายผ่านบัตรประชาชน

 

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2564 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังจะเปิดให้ประชาชนกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ไม่มีสมาร์ทโฟน และผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ลงทะเบียนรับสิทธิ์ตามโครงการ “เราชนะ” ในวันที่ 15 ก.พ. – 25 ก.พ. 2564 ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือหน่วยบริการเคลื่อนที่ธนาคารกรุงไทย

 

  • ประชาชนต้องนำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดไปใช้ในการลงทะเบียนด้วย
  • ให้ชื่อ/เบอร์โทรศัพท์ผู้ที่ติดต่อได้
  • หากตรวจสอบแล้วเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ จะได้รับวงเงินเข้าบัตรประชาชนเป็นรายสัปดาห์
  • งวดแรกจะได้รับวันที่ 5 มี.ค. 2564 จำนวน 4,000 บาท ทยอยจ่ายจนครบ 7,000 บาท
  • ส่วนการใช้เงิน สามารถใช้จ่ายผ่าน “บัตรประชาชน” สำหรับการซื้อสินค้าหรือชำระบริการในร้านที่ร่วมโครงการ เพื่อให้กลุ่มที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงเข้าถึงสิทธิ์ดังกล่าวให้มากที่สุด

 

นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกระทรวงการคลัง จะทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ธนาคารกรุงไทยสาขาในพื้นที่ และอาสาสมัครระดับหมู่บ้านทั่วประเทศ อำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนให้แก่ประชาชนกลุ่มนี้ โดยธนาคารจัดหน่วยเคลื่อนที่รับลงทะเบียน มากไปกว่านั้น กรณีผู้ป่วยติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ สามารถให้ผู้ดูแล หรือคนในครอบครัว ช่วยลงทะเบียนให้ในชื่อของผู้ป่วยนั้น ซึ่งข้อมูลคนพิการที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้จากฐานข้อมูลกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ปัจจุบันมีจำนวน 45,336 คน

 

สำหรับผู้พิการที่ไม่ได้อยู่ในความดูแลของหน่วยงานภาครัฐ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลางและในระดับพื้นที่ โดยพร้อมอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำกับผู้พิการเพื่อให้สามารถได้รับสิทธิ์

 

ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมานับแต่วันเปิดรับลงทะเบียนโครงการเราชนะ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้จัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำร่วมกับอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แก่ผู้สูงอายุและผู้พิการที่มีสมาร์ทโฟน และหากประชาชนมีข้อสอบถาม หรือต้องการความช่วยเหลือทางสังคม สามารถโทรได้ที่สายด่วน 1300 บริการ 24 ชั่วโมง

 

 

ขอขอบคุณ  https://www.thairath.co.th/news/politic/2032287

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *