The Better Life Project หัวใจยิ้มได้ด้วยการให้

 

โรคหัวใจ หนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยในอันดับต้น ๆ ของประเทศ และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยในเด็กแรกเกิดจะเรียกว่าหัวใจพิการแต่กำเนิด หากได้รับการรักษาทันท่วงที เด็กจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ด้วยสภาพสังคมและเศรษฐกิจของไทย หลายครอบครัวไม่มีกำลังทรัพย์เพียงพอในการรักษา มูลนิธิเด็กโรคหัวใจ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จึงดำเนินการช่วยเหลือครอบครัวเหล่านั้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการรักษาให้กับเด็ก

 

เพื่อเป็นการสนับสนุนการทำงานของมูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินแบลคมอร์ส จากประเทศออสเตรเลีย โดยบริษัท แบลคมอร์ส จำกัด ประเทศไทย จึงเปิดตัวกิจกรรมพิเศษ The Better Life Project หัวใจยิ้มได้ด้วยการให้ เพื่อเป็นการฉลองก้าวเข้าสู่ปีที่ 89 โดยทุกการซื้อผลิตภัณฑ์รายได้ส่วนหนึ่งจะมอบให้กับมูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ เพื่อโครงการรักษาเด็กโรคหัวใจด้วยการผ่าตัด และการใช้สายสวนนอกเวลาราชการ

 

ผศ.นพ.ธนะรัตน์ ลยางกูร ประธานมูลนิธิเด็กโรคหัวใจ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ ก่อตั้งขึ้นปี 2524 เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กที่ป่วยด้วยโรคหัวใจ แต่มีฐานะยากจนและอยู่ในพื้นที่ห่างไกลได้รับการรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดจะมีหลายลักษณะ เช่น มีรูรั่วผนังหัวใจ มีการตีบของลิ้นหัวใจ หรือลิ้นหัวใจหาย ห้องหัวใจหาย เป็นต้น ความพิการนี้เกิดจากโครงสร้างที่ผิดปกติ หากได้รับการรักษา เด็กเหล่านี้จะสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ หรือในบางรายไม่เสียชีวิต

 

วิธีการรักษานั้น นอกจากการรับประทานยาและการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ปัจจุบันจะมีการแก้ไขความผิดปกติโดยการใส่สายสวนจากแขนหรือต้นขาเข้าไปที่หัวใจเพื่อทำการรักษา เช่น โรคลิ้นหัวใจตีบ จะทำการใส่สายสวนผ่านรูที่ตีบและสวนด้วยลูกโป่งเพื่อขยายส่วนที่ตีบ หรือหากมีเส้นเลือดเกินนอกหัวใจ จะใส่เครื่องมือเข้าไปอุดผ่านสายสวน อาการเหล่านี้จะหายเหมือนได้รับการผ่าตัด

 

ปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการเกิดของเด็กประมาณ 6-6.5 แสนคนต่อปี อุบัติการณ์การเกิดโรคหัวใจในเด็ก จะเกิดขึ้น 8 คน จาก 1,000 คนของเด็กเกิดใหม่ในแต่ละปี หรือประมาณกว่า 4,000 รายต่อปี เด็กที่เจ็บป่วยด้วยโรคดังกล่าวจะเข้ารับการรักษาตามสิทธิ์ที่มีอยู่ แต่ด้วยจำนวนเด็กป่วยมีจำนวนมาก เวลาในการพบแพทย์มีอย่างจำกัด และจะต้องได้รับการรักษาในเวลาที่เหมาะสม มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ จะเข้าไปสนับสนุนค่าใช้จ่ายในส่วนการรักษานอกเวลาให้กับทีมแพทย์และพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ ทำให้ผู้ป่วยได้รับการตรวจ และนัดหมายคิวผ่าตัดที่เร็วขึ้น โดยค่าใช้จ่ายในแต่ละรายประมาณ 20,000-60,000 บาทต่อผู้ป่วย 1 คน ซึ่งเริ่มโครงการรักษานอกเวลาราชการตั้งแต่ปี 2545 ช่วยเหลือเด็กโรคหัวใจไปแล้วกว่า 15,000 คน นอกจากนี้ มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ ยังทำงานในเชิงรุก ด้วยการออกหน่วยตรวจและค้นหาในโรงพยาบาลที่ไม่มีแพทย์โรคหัวใจ แต่มีกุมารแพทย์ในโรงพยาบาลนั้น ๆ ช่วยคัดกรองให้เบื้องต้น และมูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ  จะนำเครื่องมือไปตรวจวินิจฉัยอาการป่วยเบื้องต้น เพื่อที่จะทำการนัดหมาย ผ่าตัด หรือสายสวนหัวใจต่อไป

 

น.ส.ปทมาภรณ์ วิกิณิยะธนี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท แบลคมอร์ส จำกัด เล่าให้ฟังถึงกิจกรรมในครั้งนี้ว่า เป็นเจตนารมณ์ของบริษัทที่ต้องการมีส่วนช่วยเหลือสังคม ภายใต้โครงการ “The Better Life Project” ซึ่งหลังจากนี้จะมีกิจกรรมเพื่อสังคมออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยกิจกรรมแรกคือการสนับสนุนการทำงานของมูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ โดยที่ผ่านมาบริษัทบริจาคเงินส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในหลาย ๆ กิจกรรมให้กับมูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ มาโดยตลอด และทุกปีจะมีจดหมายจากครอบครัวที่แบลคมอร์สเข้าไปมีส่วนช่วยเหลือในการรักษาโรคหัวใจ ทำให้ตระหนักว่า กิจกรรมที่แบลคมอร์สทำร่วมกับผู้บริโภคได้ก่อประโยชน์กับสังคมอย่างแท้จริง

 

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ The Better Life Project หัวใจยิ้มได้ด้วยการให้ ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2564 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ w ww.facebook.com/BlackmoresThailand.

 

 

 

ขอขอบคุณ  https://www.thaipost.net/main/detail/91207

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *