ยกย่องชายพิการใจสู้ที่สุด เก็บขยะหาเลี้ยงถึง 18 ชีวิต

ชีวิตชายพิการที่ยิ่งใหญ่ แม้มือเท้าหงิกงอ ไม่ขออยู่อย่างไร้ประโยชน์ กตัญญูออกเก็บขยะเลี้ยงแม่วัยชราและแมวถึง 18 ชีวิต สุดรันทดแค่ไหนไปติดตามกัน

ทุกหยาดเหงื่อของลูกชายคนนี้ เขาขอมอบให้แม่…เหงื่อที่เปียกชุ่มไปทั้งตัว หลังกลับจากตระเวนเก็บขยะหาของเก่า กลายเป็นเหงื่อแห่งความกตัญญู ที่ไหล่ออกมาทุกวี่วันและไม่มีวันหยุด หากจะหยุดก็มีเพียงแค่ร่างของชายพิการทางสมองวัย 52 ปี “เชษ สายสังวร” ไม่ป่วยไปเสียก่อน เขาก็จะทำเช่นนี้ทุกวันๆ

บุญหรือกรรมใดทำให้ “ชายพิการ” มือเท้าหงิกงอ แต่จะมีใครบ้างที่เลือกเกิดได้…?? มันก็ต้องสู้ชีวิตกันไป เก็บขยะเลี้ยงดูถึง 18 ชีวิต แต่หนึ่งคนที่เขารักมากสุดหัวใจ คือ “แม่ที่พิการ” วัย 73 ปี “สมจิตร สายสังวร” เรื่องราวต่อจากนี้ หากได้ฟังอาจหดหู่ใจ แต่จะได้เห็นผู้ชายที่มีหัวใจเปี่ยมไปด้วยความรัก จะยิ่งใหญ่แค่ไหน แม้จะมีขีดจำกัดทางร่างกายแต่ใช่เป็นอุปสรรคใดๆ หัวใจต่างหากที่มีแต่ความรักให้แม่ คือความยิ่งใหญ่เกินบรรยายจริงๆ

“เชษ” ชายวัย 52 ปี พิการทางร่างกายตั้งแต่กำเนิด ซ้ำร้ายสมองที่เขารับรู้ กลับเหมือนเด็กในบางครั้ง เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในบ้านเช่าหลังนี้ กลายเป็นภาพชินตาของชาวบ้านละแวกใกล้เคียง เพราะทุกเช้าๆ เวลา 06.00 น. ผู้ชายคนนี้จะเดินออกจากบ้านเป็นกิโลเมตร เซซ้ายขวาบ้างเพื่อไปขึ้นรถเมล์ 2 ต่อ เก็บขยะตามถัง ซึ่งก็คงแปลกตาสำหรับหลายคนที่ได้เห็น โดนสายตาเหยียดบ้าง สติไม่ดีบ้าง แต่หารู้ไม่ว่า…สิ่งที่เขาทำอยู่นั้น คือความอยู่รอดทั้ง 18 ชีวิต

ใช่แล้ว ทั้ง 18 ชีวิต!! ที่รอคอยเขากลับมาถึงบ้านเช่าใน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยเช่าอยู่เดือนละ 1,000 บาท และมีค่าน้ำค่าไฟอีก 300 บาท ซึ่งเมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบเจอกับ “หญิงพิการ” กำลังนั่งรอลูกชายกลับบ้าน…แม่ของเชษนั่นเอง ผู้ที่มีความบกพร่องทางสมอง

เมื่อย้อนกลับไปช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ใครจะคิดว่า “เด็กหญิง” ผู้หนึ่งต้องหวาดระแวงจนสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เพราะกลัวเสียงที่ดังจากการทิ้งระเบิด กลายเป็นคนที่พูดรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ยังพอสื่อสารได้ ซึ่งหลังจากแยกทางกับสามีตั้งแต่เชษยังแบเบาะ “นางสมจิตร” ก็เลี้ยงลูกลำพังเช่นนี้เรื่อยมา

“ทองคำ ผลโพธิ์” อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.บางปูใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ บอกว่า “เชษ” เป็นคนที่ขยัน ได้รับเบี้ยคนพิการตั้งแต่เดือนละ 300 บาท จนปัจจุบันนี้ได้รับ 800 บาท/เดือน ส่วนนางสมจิตร ได้รับเบี้ยคนพิการเดือนละ 700 บาท ทั้งคู่ยังโชคดีที่น้าชาย น้องของนางสมจิตร จะแบ่งข้าวมาให้บ้าง และรับผิดชอบค่าเช่าบ้านทั้งหมด โดยหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการค้าขายของเก่าเช่นกัน

ส่วนอีก 17 ชีวิตที่ “เชษ” และแม่ของเขา รักมากที่สุด คือ “น้องแมว” สัตว์เลี้ยงที่ถูกคนใจร้ายนำมาทิ้ง แต่ด้วยความสงสาร แม่ของเชษเก็บมาเลี้ยงอยู่ภายในห้องแห่งนี้ หากเดินเข้าไปในห้อง แทบจะหาทางเดินไม่ได้ กลิ่นเหม็นมูลของเสียจากแมว ตลบอบอวนไปทั่วบริเวณห้อง ที่หลับที่นอนของ 2 คนแม่ลูกคู่นี้ คือหน้าประตูทางเข้า แคบๆ เป็นเพียงลังกระดาษเก่าๆ ที่นำมาปูกับพื้นเพื่อรองนอนกันเจ็บ

บางมื้อคนอด…แมวก็ต้องอดเช่นกัน!! เพราะไม่มีแม้ข้าวเปล่าให้กินสักเม็ด แมวถูกขังอยู่ในกรงทั้งหมด 8 กรง เพราะกลัวหายและอาจจะออกมาเดินเพ่นพ่านข้างนอก หลายคนกลับพูดว่าตัวเองยังไม่มีจะกิน กลับเอาแมวมาเลี้ยงเป็นภาระ แต่สำหรับ “เชษ” และแม่ของเขา มันคือการช่วยชีวิตให้สัตว์เหล่านั้นอยู่รอดในวันต่อไป ดูแลรักและผูกพันเหมือนลูก และยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในวันหมดกำลังใจ

ตั้งแต่อดีตจนถึง ณ เวลานี้ ถึงแม้ร่างกายของ “เชษ” จะพิการ แต่มันไม่ใช่อุปสรรคเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ได้ทำลงไปนั้น มันเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ของลูกชายคนหนึ่ง มอบให้ “แม่บังเกิดเกล้า” ซึ่งสมควรยกย่องจริงๆ

 

ขอบคุณ… https://www.dailynews.co.th/article/635566

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *