ญี่ปุ่นระงับการทดสอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชั่วคราว หลังพบผลข้างเคียงรุนแรง

 

แผนจัดหาวัคซีนโควิดอย่างเร่งด่วนของรัฐบาลญี่ปุ่นได้รับผลกระทบ จากการที่วัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา ต้องระงับการทดสอบชั่วคราวหลังพบอาการป่วยที่หาสาเหตุไม่ได้ในอาสาสมัคร

 

วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกา บริษัทยาของอังกฤษ ที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ได้รับการกล่าวถึงจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่ามีความคืบหน้าในการพัฒนามากที่สุด จึงเป็นความหวังทึ่รัฐบาลญี่ปุ่นจะหลุดพ้นการการคุกคามของไวรัสมรณะ เดินหน้าสู่การจัดงาน “โตเกียวโอลิมปิก”

 

รัฐบาลญี่ปุ่นได้ทำความตกลงกับบริษัทแอสตราเซเนกา เพื่อให้ได้รับวัคซีนจำนวน 120 ล้านขนาดยาสำหรับประชาชน 60 ล้านคนในช่วงต้นปีหน้า เพื่อสร้างความมั่นใจในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสุขภาพของประชาชน

 

แต่แผนการของรัฐบาลญี่ปุ่นต้องสะดุดลง เมื่อวัคซีนนี้ต้องระงับการทดสอบชั่วคราวหลังจากอาสาสมัครเกิดปฏิกิริยาตอบโต้ไม่พึงประสงค์อย่างรุนแรง ซึ่งคาดว่าจะเป็นอาการไขสันหลังอักเสบ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเชื่อมโยงโดยตรงกับวัคซีนหรือไม่

 

 

วัคซีนของแอสตราเซเนกาอยู่ในการทดสอบขั้นสุดท้าย มีการทดลองในประเทศต่าง ๆ เช่น อังกฤษ สหรัฐ บราซิล รวมทั้ง ญี่ปุ่น แต่เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวตัวแทนของบริษัทในญี่ปุ่นระบุว่า จะระงับการทดลองในญี่ปุ่นเช่นกัน

 

นายคัตสึโนบุ คาโต รัฐมนตรีสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น ยอมรับว่า รัฐบาลของญี่ปุ่นได้ตกลงกับบริษัทแอสตราเซเนกา โดยตามแผนงานแล้ว ในปลายเดือนมีนาคม ปีหน้า รัฐบาลญี่ปุ่นจะมีสิทธิ์ก่อนในการได้รับวัคซีนชุดแรก 30 ล้านชุด ซึ่งจะจัดสรรให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่ปฏิบัติงานในสถานดูแลผู้สูงอายุและคนพิการ

 

รัฐมนตรีสาธารณสุขญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังเจรจากับบริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐและยุโรปหลายแห่ง เพื่อให้ได้รับวัคซีน ถ้าบริษัทเหล่านั้นประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีน

 

 

ขอขอบคุณ  https://mgronline.com/japan/detail/9630000092754

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *