หลายคนอาจคุ้นชินกับคำว่าความนับถือตัวเองกันมาบ้าง แต่ก็ยังมีสาวๆ บางคนที่ไม่คุ้นกับคำนี้และคิดว่ามันคงคล้ายกับคำว่าความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งความจริงแล้วความนับถือในตัวเอง (Self-esteem) จะแตกต่างจากความมั่นใจในตัวเองที่เราอาจคุ้นเคยกัน เพราะคำนี้มันหมายถึงความเชื่อจากภายในตัวเอง ที่จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายร่างกายและจิตใจของเรา และมันสามารถพัฒนาต่อได้ แถมยังมีข้อดีต่างๆ มากมายหากเราเป็นคนที่นับถือตัวเอง เราจึงหยิบยกข้อต่างๆ ข้อคนที่ขาดความนับถือตัวเองจากหนังสือ SHINE FROM WITHIN ส่องแสงเจิดจรัสจากภายใน ของโค้ชนิดา มาค่ะ ซึ่งข้อดีคือจะเป็นพลังในการขับเคลื่อนและสร้างแรงบันดาลใจต่างๆ มากมายเลยนะคะสาวๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ MIRROR อยากชวนสาวๆ มาเช็กลิสต์กันสักหน่อยว่าคุณกำลังเข้าข่ายพฤติกรรมที่เรียกว่าขาดความนับถือตัวเองกันอยู่หรือเปล่า
มองไม่เห็นจุดแข็งและชอบตำหนิตัวเอง
สังเกตได้ง่ายๆ เลยคือเรามักจะตำหนิหรือโทษตัวเองเวลามีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังเลือกใช้คำพูดด้านลบกับตัวเอง แถมยังไม่สามารถบอกได้ว่าข้อดีและจุดแข็งของตัวเองคืออะไร เวลามีคนถามจะนึกเสมอว่าความสามารถที่เรามีก็เหมือนคนทั่วไปที่ไม่ว่าใครก็ทำได้ ที่สำคัญเมื่อมีความสำเร็จเกิดขึ้นมาในชีวิตจะไม่เชื่อว่าเป็นความสามารถของตัวเอง แต่จะคิดว่าเป็นเรื่องของโชคชะตาหรือเป็นแค่ความโชคดีเรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้น นอกจากนี้เมื่อมีคนมาชื่นชมจะมองว่าเป็นเรื่องโกหก ไม่เป็นความจริง
ไม่กล้าตัดสินใจและไม่แสดงความคิดเห็น
สิ่งหนึ่งที่คนไม่นับถือตัวเองจะแสดงออกอย่างชัดเจนคือ การที่ไม่กล้าตัดสินใจในเรื่องราวต่างๆ และไม่กล้าแสดงความคิดเห็นอะไรออกไป เพราะกลัวว่าจะมีคนไม่ชอบในสิ่งที่คิด ไม่ยอมรับความคิดเห็นเหล่านั้น และกลัวว่าตัวเองจะเป็นคนที่แปลกแยกไม่เข้าพวกกับใคร อีกหนึ่งสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยคือ จะเป็นคนที่โลเล ลังเล คิดวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา กลัวความผิดพลาด กลัวความล้มเหลวที่เกิดขึ้น ทำให้ตัวเองต้องจมอยู่กับปัญหาที่มีอยู่และหวังว่าอุปสรรคเหล่านั้นจะหายไปได้สักวัน โดยที่ไม่ตัดสินใจทำอะไรสักอย่างค่ะ
ขาดเป้าหมายในการใช้ชีวิต
เมื่อไรก็ตามที่เราเริ่มไม่นับถือตนเอง สิ่งที่จะตามมาคือการขาดความรับผิดชอบต่อตัวเอง (Self-responsibility) มันจะเชื่อมกับความคิดว่าเราไม่มีความสามารถในด้านต่างๆ จะมาถึงเรื่องไม่มีความสามารถในการควบคุมชีวิตตัวเองได้ ทุกอย่างในชีวิตต้องมีคนคอยสั่ง คอยบงการ และมีความคิดที่ว่าถ้าตัวเองจะประสบความเร็จได้ก็ต้องให้คนอื่นมาเป็นคนจัดการ เพราะตัวเองไม่สามารถทำอะไรให้ประสบผลสำเร็จ มันจึงทำให้ไม่อยากตั้งเป้าหมายอะไรปล่อยให้ชีวิตเลื่อนลอย หรือใช้ชีวิตวนลูปแบบเดิมๆ อย่างประจำทุกวัน โดยไม่สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ นั่นเองค่ะสาวๆ
เรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้าง
ขอบอกเลยว่าข้อนี้ส่วนมากมักจะไม่ค่อยรู้ตัว เพราะมันเป็นความต้องการลึกๆ ภายในใจที่อยากให้คนให้มาสนใจให้ความสำคัญ ประกอบกับคิดว่าตัวเองไม่มีค่าพอ จึงทำให้เกิดการแสดงออกเป็นการเรียกร้องความสนใจโดยที่ไม่รู้ตัว ส่วนมากจะใช้ปัญหาที่เกิดขึ้นรอบตัวมาสร้างเป็นการเรียกร้อง เช่น การทำให้คนรอบข้างรู้สึกว่าชีวิตตัวเองมีปัญหาตลอดเวลา เพื่อที่จะให้คนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ หรือบางครั้งก็สร้างเรื่องราวให้ดูน่าสงสารเกินจริง ทำให้คนรู้สึกหันมาสนใจแต่ตัวเองแบบนี้ก็มีค่ะ
ไม่ยอมรับความจริง ไม่ยอมรับตัวตนของตัวเอง
เรามักจะสังเกตได้เลยว่าคนที่ขาดความนับถือตัวเอง สิ่งที่แสดงออกคือ การขาดความมั่นใจในตัวเอง จะเป็นคนที่ไม่ยอมรับตัวเอง ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมา ส่วนมากมักจะพยายามลอกเลียนแบบคนอื่นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ตัว คนดัง หรือใครก็ตาม ที่เป็นแบบนี้เพราะว่ามีความคิดที่ว่าทำแบบนี้จะช่วยให้คนอื่นยอมรับตัวเองได้ง่ายขึ้น และที่ร้ายแรงไปกว่านั้นบางคนอาจถึงขั้นแต่งเรื่องราว สร้างโปรไฟล์ตัวเองให้ดูดีเกิดขึ้น เพื่อให้คนรอบข้างยอมรับ ถึงขนาดยอมโกหกเรื่องราวต่างๆ ได้เลยนะคะ
ติดความเพอร์เฟกต์และชอบโอ้อวด
เสพติดความเพอร์เฟกต์และคิดว่าสิ่งที่ทำจะต้องโดดเด่นอยู่เสมอ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า ถ้าเราไม่เป็นคนที่เก่งที่สุดจะไม่มีใครยอมรับ กลัวคนตัดสินตัวเองจากภายนอก และบางคนก็ชอบพูดโอ้อวดสิ่งที่ทำเกินความเป็นจริง เช่นทำงานไปเพียงแค่ 20% แต่กลับพูดว่าผลงานทั้งหมดเป็นของตัวเอง ซึ่งบางคนคือการพูดข่มคนอื่น เพื่อให้ตัวเองดูเหนือกว่าคนอื่นตลอดเวลา เหมือนเป็นการหลอกตัวเองว่าเราดีกว่าคนอื่น เพื่อเป็นการเติมเต็มความรู้สึกที่ไม่นับถือตัวเองนั่นเองค่ะ
สำหรับใครที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ขาดความนับถือตัวเองอยู่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะมันสามารถสร้างสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นได้ ส่วนมากแล้วการที่เราขาดความนับถือตัวเองมักมาจากความคิดเชิงลบจากภายในจิตใจ ซึ่งเราแก้ได้โดยเมื่อเกิดความคิดนี้ขึ้น ให้หยุดทันทีเมื่อรู้ตัวและไม่ปล่อยให้อารมณ์ไหลไปความคิดตรงนั้นของเรา และเลิกคิดถึงข้ออ้างต่างๆ ที่จะคอยส่งผลให้เราไม่ยอมลองทำสิ่งต่างๆ นอกจากนี้การยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น ยอมรับความผิดพลาด ไม่ตำหนิตัวเองและตั้งใจที่จะแก้ไขปรับปรุงมันให้ดีขึ้น หาหนทางเพื่อจะพัฒนามันต่อไป สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้สาวๆ ก้าวข้ามความคิดที่ว่าเราขาดการนับถือตัวเองได้นะคะ
ขอขอบคุณ https://www.thairath.co.th/women/life/motivation/1921535