“ทำน้อยได้มาก” เคล็ดลับวิธีการทำงานสำหรับผู้หญิงยุคใหม่

 

ในวันที่ชีวิตวุ่นวายยุ่งเหยิง ทั้งประชุมใหญ่ ประชุมเล็ก บวกกับงานที่ยังค้างคาทำให้เราไม่มีเวลาในการใช้ศักยภาพที่มีในตัวอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดความวุ่นวายใจและพาลไม่อยากไปทำงานตามมาด้วย ใครกำลังรับมือกับเรื่องราวแบบนี้อยู่ MIRROR มีวิธีแก้ปัญหามาฝาก การจะรับมือกับความยุ่งของงานนั้น อยู่ที่กระบวนการการจัดการทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นจัดการตัวเอง จัดการงานและจัดการผู้อื่นและขอบอกว่า ถ้าคุณทำตามวิธีเหล่านี้ได้มากแค่ไหน คุณก็จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการ “ทำน้อยได้มาก” ในที่สุด และเมื่อถึงเวลานั้นคุณจะมีเวลาสนุกกับตัวเองอย่างเต็มที่ เที่ยวเล่นได้โดยไม่ต้องลาพักร้อน (เพราะงานเสร็จ) แถมเจ้านายยังให้ความไว้ใจเต็มร้อยอีกด้วยนะคะ

 

1. เริ่มต้นที่ผลลัพธ์

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “ทำน้อยได้มาก” เพราะฉะนั้นจึงต้องโฟกัสไปที่ผลลัพธ์นั่นเองค่ะ โทนี่ ร็อบบิ้นส์ กูรูชื่อดังกล่าวไว้ว่า ถ้าจะทำงานให้มีประสิทธิภาพโดยใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งแรกที่เราต้องถามตัวเองคือ เราอยากได้ผลลัพธ์อะไร ผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะนำไปสู่วิธีการที่ชัดเจน วิธีนี้จะช่วยให้เราประหยัดเวลาในการทำงานและโฟกัสทำในสิ่งที่จะก่อให้เกิดผลลัพธ์เท่านั้น เช่น ก่อนเข้าประชุม ให้ถามตัวเองเลยว่าเราต้องการเห็นอะไรเกิดขึ้นหลังจากเดินออกจากที่ประชุม และใช้เวลาเท่าไรที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์นั้น เชื่อไหมคะ วิธีนี้จะช่วยย่นระยะเวลาการประชุมจากชั่วโมงให้เป็นครึ่งชั่วโมงและยังได้งานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมด้วย

 

MIRROR recommends : ทุกคืนก่อนนอนหรือตอนเช้า ใช้เวลาสิบถึงสิบห้านาทีเขียนผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นลงบนกระดาษ เขียนให้ชัดเจนและลงรายละเอียดมากที่สุด เพราะนั่นคือการโกงเวลาและทำให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ที่สุดค่ะ

 

2. บริหารเวลาและจัดลำดับความสำคัญ

เรื่องที่ดูเหมือนจะง่ายแต่ทำยาก เพราะต้องใช้สติในการทำสุดๆ แต่ถ้าทำได้รับรองว่าชีวิตของคุณจะสุขสบายขึ้นมากๆ เลยล่ะ วิธีการที่ง่ายที่สุดสำหรับคนที่อยากเริ่มบริหารเวลาคือให้เขียน to-do list ออกมาหลังจากเขียนผลลัพธ์ในข้อที่ 1 เสร็จค่ะ คุณจะเห็นภาพรวมของงานและผลที่ต้องการชัดขึ้น ที่สำคัญคือการได้ทราบว่าจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อที่จะให้ได้ผลลัพธ์ที่วางไว้จะทำให้เราวางแผนการทำงานได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ จากนั้นให้กำหนดเวลาให้กับงานแต่ละชิ้น ทั้งช่วงเวลาที่จะทำและระยะเวลาที่จะทำโดยเริ่มจากงานที่สำคัญและเร่งด่วนที่สุดในแต่ละวันก่อน ทำแบบนี้ทุกวัน จะเห็นผลที่ชัดเจนเลยว่าเราจะทำงานเสร็จเร็วขึ้นและมีเวลาในการจัดการเรื่องอื่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยนะคะ (อ่านเพิ่ม : “บริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับ Working Women อย่างคุณ)

 

MIRROR recommends : ทำตาราง To do list ในคอมพิวเตอร์ของคุณ เช่นให้เวลาตัวเองสำหรับทำงาน 6 ชั่วโมงต่อวัน แบ่งงานที่จะทำในแต่ละช่วงเวลา ตั้งเวลาไว้ในโทรศัพท์ ไม่แวบไปทำอย่างอื่น (เช่น เปิดโซเชียลมีเดีย) จนกว่าจะทำงานนั้นๆ เสร็จตามเวลา อย่าลืมให้เวลาตัวเองพักสั้นๆ ก่อนที่จะทำงานต่อไปด้วยนะคะ

 

 

3. บริหารพลังงานที่ใช้เพื่อทำสิ่งต่างๆ

เชื่อไหมคะว่าพลังงานของเรามีผลมากต่อการทำงาน สังเกตตัวเองดูก็ได้ว่าวันไหนที่ใช้เวลาไปกับอะไรบางอย่างเยอะๆ พอหมดวันจะรู้สึกหมดแรงไปเลย วิธีที่จะช่วยแก้ปัญหานี้คือการรู้จักบริหารพลังงานค่ะ เช่น แบ่งเป็นช่วงเวลาที่จะปั่นงานที่เราต้องทุ่มพลังทั้งหมดให้กับงานสำคัญ ช่วงเวลาประชุมทีมที่เราสามารถแบ่งพลังร่วมกับคนอื่นได้ทำให้ไม่ต้องใชพลังเยอะจนเกินไป ขาดไม่ได้เลยคือช่วงเวลาพักผ่อนค่ะ เป็นช่วงเราอาจจะไม่ได้งานแต่จะได้ชาร์จพลังเพื่อให้มีแรงทำงานให้เสร็จสมบูรณ์ยิ่งขึ้นนั่นเอง ยิ่งเรามีพลังเท่าไหร่ การ “ทำน้อยได้มาก” ของเราก็จะยิ่งเป็นไปได้มากขึ้นเท่านั้นค่ะ (อ่านเพิ่ม : พักบ้างก็ได้ ให้สมองได้ผ่อนคลาย)

 

MIRROR recommends : สำรวจนาฬิกาชีวิตตัวเองว่าเราเป็นคนที่มีพลังตอนไหน เช่น บางคนมีช่วงเช้าตรู่ บางคนมีช่วงดึก เป็นต้น แล้วใส่ตารางงานสำคัญอัดไปในช่วงที่เราแบตเต็ม วิธีนี้จะทำให้เราสนุกและกระตือรือร้นกับการทำงานมากขึ้นเยอะเลยล่ะค่ะ อย่าลืมเผื่อเวลานอนให้ครบ 8 ชั่วโมงด้วยนะคะ

 

4. เลือกโฟกัสในสิ่งที่ควบคุมได้

“ทำน้อยแต่ได้มาก” ไม่ได้แปลว่าให้เราขี้เกียจ หรือเอาเปรียบบริษัท แต่หมายความถึง การเลือกที่จะให้พลังกับสิ่งที่เราควบคุมได้ เพื่อให้งานของเราเสร็จเร็วและมีคุณภาพต่างหากล่ะคะ คิดดูเล่นๆ สิคะว่าในหนึ่งวันเราเสียเวลากังวล หรือกลุ้มใจไปกับเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้กี่เรื่อง และการเสียเวลาให้กับสิ่งเหล่านั้น ก็ทำให้เราหมดแรงที่จะสร้างสรรค์ผลงานดีออกมา เพราะฉะนั้น ลองหันมาโฟกัสในสิ่งที่ควบคุมได้ ดูนะคะ เช่น อาจจะลองถามตัวเองทุกครั้งที่เกิดการติดขัดหรือเกิดปัญหาว่าเราจะแก้ไขปัญหาด้วยวิธีไหน หรือใครที่ถูกกดดันจากคนรอบข้าง แทนที่จะโฟกัสกับคนที่กดดันเรา ให้เลือกที่จะให้พลังกับทางออกว่าเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อลดแรงกดดันที่เกิดขึ้นหรือทำงานให้เสร็จเร็วขึ้น การเลือกโฟกัสกับสิ่งเหล่านี้ นอกจากจะทำให้เรามองเห็นทางออกของปัญหาได้ชัดขึ้นแล้ว ยังทำให้เรามีเวลาในการแก้ปัญหาเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ

 

MIRROR recommends : เขียนปัญหาหรืออุปสรรคบนกระดาษแล้วแยกเป็นลิสต์ระหว่างสิ่งที่เราควบคุมได้กับควบคุมไม่ได้ จากนั้นให้เขียนถึงวิธีที่เราจะแก้ปัญหาพร้อมระบุเวลาหรือสิ่งที่จะทำให้ชัดเจน ยิ่งเขียนออกมาชัดเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งประหยัดเวลาได้มากขึ้นเท่านั้นค่ะ

 

5. เพิ่มมาตรฐานการทำงานของตัวเองให้สูงขึ้น

ฟังดูขัดแย้งไหมคะ บอกวิธี “ทำน้อยได้มาก” แต่กลับให้เพิ่มมาตรฐานของตัวเองให้สูงขึ้น ก็แปลว่าต้องทำให้ยากขึ้นด้วยสิ ไม่ใช่เลยค่ะ การตั้งมาตรฐานการทำงานของตัวเองให้สูงขึ้นคือการฝึกตัวเองให้เก่งขึ้นทุกวันต่างหาก แรกๆ อาจจะยากหน่อยนะคะ แต่พอเริ่มชิน เราก็จะสนุกกับความท้าทายใหม่ๆ มากขึ้นด้วย เช่น ท้าทายให้ตัวเองทำงานบางชิ้นในเวลาที่จำกัดมากขึ้น หรือเพิ่มชิ้นงานที่ท้าทายขึ้น เป็นต้น วิธีนี้จะช่วยให้เราออกจาก Comfort zone ขณะเดียวกันการทำในสิ่งที่ยากขึ้น จะทำให้เรามีแรงขับที่จะได้พัฒนาตัวเองไปในทิศทางที่ดีขึ้น ในที่สุดแล้ว งานที่ว่ายากหรืองานที่มีเวลาทำในเวลาจำกัดมากๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย เพราะเรามีความชำนาญแล้วนั่นเอง เมื่อเราเก่งขึ้นเราก็จะทำในสิ่งที่เรียกว่า “ทำน้อยได้มาก” ได้มากขึ้นนั่นเองค่ะ และคนที่จะเห็นในเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่ตัวเราคนเดียวแต่เป็นเจ้านายของเราด้วยนะ ในวันที่งานหายากและเขาจะต้องเลือกคนที่มีประสิทธิภาพที่สุด วันนั้นชื่อคุณก็จะอยู่อันดับแรกของลิสต์เลยล่ะ

 

MIRROR recommends : ตั้งเป้าหมายรายวัน รายสัปดาห์ว่าอยากเห็นอะไรเกิดขึ้น อยากพัฒนาในเรื่องไหนให้เก่งขึ้น เริ่มจากเรื่องเล็กๆ แล้วค่อยตั้งเป้าหมายที่ท้าทายขึ้น วิธีนี้ นอกจากจะได้ท้าทายตัวเองให้ทำงานสนุกขึ้นแล้ว ยังเป็นการ “ทำน้อยแต่มาก” ที่วัดผลได้ชัดเจน และมีประสิทธิภาพมากๆ ด้วยนะคะ (อ่านเพิ่ม : ทำไมคนเราต้องใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย)

 

บอกครบจบ 5 วิธีแล้ว Lady MIRROR ที่อ่านมาถึงตรงนี้ ต้องลองไปทำดูนะคะ คุณจะมีอิสระทางเวลามากขึ้น แถมด้วยไอเดียใหม่ๆ ที่คิดได้ตอนสมองโล่งๆ กลับมาใช้ในการทำงานอีกด้วย เชื่อเถอะค่ะการทำงานแบบ “ทำน้อยได้มาก” นั้นทำได้จริงๆ และทำได้ทุกคน รับประกันเลยว่าถ้าได้ทำแล้ว คุณจะมีความสุขกับการทำงานมากขึ้นแน่นอนค่ะ

 

 

ขอขอบคุณ  https://www.thairath.co.th/women/life/career/1911504