ชีวิตต้องสู้ อุบัติเหตุเปลี่ยนชีวิต วิ่งสู่ชีวิตใหม่ “น้องธันย์” ณิชชารีย์ สาวน้อยใจสู้

ชีวิตที่ต้องเลือก “น้องธันย์” ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ สาวน้อยใจสู้ พบกับ อุบัติเหตุเปลี่ยนชีวิต แต่ได้กีฬาวิ่งพาสู่ชีวิตใหม่ พร้อมความสดใส

เป็นสาวน้อยที่ถึงแม้ชีวิตจะพบกับความสูญเสีย จากสาวน้อยวัยสดใส กลับเจออุบัติเหตุ จนเดินไม่ได้แต่ไม่ทำให้ชีวิตต้องเศร้า กลับเป็นชีวิตต้องสู้ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนต้องดูเป็นตัวอย่าง

“น้องธันย์” ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ ที่โชคร้ายประสบอุบัติเหตุรถไฟฟ้า ที่สิงคโปร์ทับขาทั้งสองข้างจนต้องถูกตัดขา เมื่อปี 2011 ซึ่งได้มาร่วมวิ่งในงาน “ไทย เฮลท์ เดย์ รัน 2017” Thai Health Day Run 2017 ภายใต้โครงการ “วิ่งสู่ชีวิตใหม่“ ปีที่ 6 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จัดโดย สสส. สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย และภาคีเครือข่ายสุขภาพ ที่บริเวณสะพานพระราม 8

“น้องธันย์” กล่าวว่า ตอนนี้ทำงานที่รพ.เวิลด์เมดิคอล ซึ่งตอนนี้ ทำงานได้ 5 เดือน แล้ว พร้อมกับเรียนหนังสือไปด้วย โดยตอนนี้ เรียนอยู่ชั้นปี ที่ 2 คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ม.ธรรมศาสตร์

“ปกติออกกำลังกายตลอด จะเดินบนลู่วิ่งวันละ 45 นาที ทุกวัน เดินด้วยขาเทียม ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุเมื่อปี 2554 ก็ได้เริ่มหันมาวิ่งสุขภาพเมื่อปี 2555 ปีแรก ในงาน “ไทย เฮลท์ เดย์ รัน 2017” ได้วิ่งกับ รายการนี้ทำให้ได้ออกมาวิ่งและยังวิ่งอีกหลายรายการ เป็นการวิ่งด้วยการใช้ขาเทียม เรียกว่า สำหรับรายการ “ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2017” วิ่งทุกปี มียกเว้นไป 2 ปี แต่ปีนี้ เพิ่งเป็นปีแรกที่วิ่งด้วยวีลแชร์”

“ในรายการแรกที่ “ธันย์”เริ่มวิ่ง “ธันย์” ได้เจอ “พี่ตูน บอดี้สแลม” ด้วย เป็นรายการที่พี่ตูนเพิ่งเริ่มวิ่งด้วย เรียกว่าทั้งธันย์และพี่ตูน เราออกวิ่งไปพร้อมๆ กัน สำหรับโครงการก้าวคนละก้าว ของพี่ตูนนั้น ถือว่าเป็นโครงการที่ดี ที่ปลุกชีวิตให้ทุกคนหันมาวิ่ง”

“ประโยชน์ขอการวิ่งนอกจากจะได้ ประโยชน์ในเรื่องสุขภาพที่ดีแล้ว ยังได้ในเรื่องของมิตรภาพสำหรับกลุ่มคนที่รักสุขภาพเหมือนกัน”

นี่คือสาวน้อยใจสู้ “น้องธันย์” ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ ที่ความพิการไม่เป็นอุปสรรค ทำให้เป็นสาวน้อยกับยิ้มที่สดใส

ถึงแม้ตอนนี้ ชีวิตจะต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงในทางที่แย่ลง แต่ไม่ใช่อุปสรรคที่ทำให้ท้อถอย กลับทำให้ลุกขึ้นมาสู้สู่ชีวิตที่สดใสและดีขึ้น

ขอบคุณ… http://www.tnews.co.th/contents/414462

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *